Drug name: ยาต้านเชื้อเอชไอวี
Description: ยาต้านเชื้อเอชไอวี (Pre-Exposure Prophylaxis: PrEP) คือ ยาสำหรับใช้ในผู้ที่เสี่ยงต่อการรับเชื้อเอชไอวี และมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มชายรักชาย และกลุ่มหญิงชาย ที่เสี่ยงติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนที่ติดเชื้อหรือไม่ทราบว่าติดเชื้อหรือไม่ ทั้งนี้ยาดังกล่าวมีฤทธิ์ยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อไปทั่วร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะต้องใช้ใช้ยาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพราะหากรับประทานยาไม่ต่อเนื่องจะทำให้ประสิทธิภาพลดลง ปัจจุบันมียาต้านเชื้อไวรัสเอชไอวีที่ได้รับการรับรองอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ โดยยาทั้ง 2 ชนิดนี้จะอยู่ในรูปของยาสูตรผสมที่ต้องรับประทานคู่กันเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี เกี่ยวกับยาต้านเชื้อเอชไอวี ปริมาณการใช้ยาต้านการติดเชื้อเอชไอวี การใช้ยาต้านเชื้อเอชไอวี ยาต้านเชื้อเอชไอวีเป็นยาที่ต้องใช้ภายใต้คำสั่งของแพทย์เท่านั้น และไม่ควรปรับขนาดยาด้วยตนเองเพราะอาจทำให้ได้รับเกินขนาดหรือน้อยกว่าปริมาณที่ร่างกายต้องการ ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับยาจะต้องเป็นมีผลตรวจเลือดที่ไม่พบว่ามีการติดเชื้อเอชไอวี เนื่องจากยาดังกล่าวจะทำได้เพียงป้องกันไม่ให้ติดเชื้อเท่านั้น หากได้รับเชื้อหรือติดเชื้อแล้วจะไม่สามารถใช้ยาดังกล่าวได้ ในการใช้ยาเพื่อให้ได้ประโยชน์จากยามากที่สุด ควรรับประทานยาอย่างต่อเนื่องและตรงเวลา และควรไปรับยาเพิ่มก่อนที่ยาจะหมด นอกจากนี้ ขณะรับการรักษาด้วยยาดังกล่าวผู้ป่วยควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยควรได้รับการตรวจเลือด ตรวจการทำงานของตับและไต ความสมบูรณ์ของมวลกระดูกอย่างสม่ำเสมอ หากมีภาวะไวรัสตับอักเสบบีเกิดขึ้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงว่าจะได้รับเชื้อเอชไอวีไม่ควรใช้ยาดังกล่าวหากอยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากยาดังกล่าวอาจปนเปื้อนในน้ำนม หรือส่งผลต่อทารกในครรภ์ได้ แต่หากจำเป็นต้องใช้ยาดังกล่าวควรปรึกษาแพทย์ถึงประโยชน์และความเสี่ยงที่จะได้รับจากการใช้ยาต้านเชื้อเอชไอวี การเก็บรักษายา ผู้ป่วยควรเก็บยาไว้ในอุณหภูมิห้อง ห่างไกลจากความชื้นและความร้อน หากไม่ได้ใช้ควรปิดบรรจุภัณฑ์ให้สนิท ห้ามปล่อยให้อากาศเข้าเพราะอาจส่งผลต่อคุณภาพของยาได้ ผลข้างเคียงจากการใช้ยาต้านเชื้อเอชไอวี เช่นเดียวกับยาชนิดอื่น ๆ ยาต้านเชื้อเอชไอวีมีผลข้างเคียงที่ต้องระมัดระวัง เนื่องจากเป็นยาที่ต้องใช้ต่อเนื่องในระยะยาว ดังนั้น หากผู้ป่วยมีสัญญาณของอาการแพ้ยา เช่น ผื่นลมพิษ หายใจลำบาก หน้าบวม ริมฝีปาก ลิ้น และคอบวม ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน นอกจากนี้ การใช้ยายังอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปดังนี้ อีกทั้งการใช้ยาดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดภาวะเลือดเป็นกรดแลกติก ดังนั้น จึงควรสังเกตอาการผิดปกติอย่างใกล้ชิด ควรรีบพบแพทย์ทันทีหากมีอาการอื่น ๆ เช่น นอกจากนี้ ยาดังกล่าวอาจทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงในการติดเชื้ออื่น ๆ หรือเป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง ได้ เนื่องจากยาชนิดนี้จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ดังนั้น หากมีอาการดังต่อไปนี้ควรรีบแจ้งแพทย์เพื่อความปลอดภัย ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับ :ยาต้านเชื้อเอชไอวี
กลุ่มยา
ยาต้านเชื้อไวรัสเอชไอวี
ประเภทยา
ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ
ป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี
กลุ่มผู้ป่วย
ผู้ใหญ่
รูปแบบของยา
ยาเม็ด
คำเตือนการใช้ยาต้านเชื้อเอชไอวี