Drug name: amitriptyline
Description: Amitriptyline (อะมิทริปไทลีน) เป็นยาใช้รักษาอาการจากโรคซึมเศร้า โดยจัดเป็นยาต้านซึมเศร้ากลุ่มไตรไซคลิก (Tricyclic Antidepressant) ทำงานโดยปรับปริมาณสารเคมีในสมองที่ไม่สมดุลกันซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะซึมเศร้าให้กลับมาเป็นปกติ นอกจากนี้ แพทย์ยังอาจใช้ยานี้ในการรักษาผู้ป่วยภาวะปลายประสาทอักเสบ อาการปวดประสาท และป้องกันอาการปวดไมเกรนด้วย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการบริโภค ผู้ใช้ยาควรระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้ ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาขึ้นอยู่กับโรคและดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยา ดังนี้ ปริมาณการใช้ยาในเด็กอายุ 6–10 ปี รับประทานครั้งละ 10–20 มิลลิกรัม เด็กอายุ 11–16 ปี รับประทานครั้งละ 25–50 มิลลิกรัมก่อนนอน โดยไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 3 เดือน ปริมาณการใช้ยาในผู้ใหญ่ เริ่มจากการรับประทานครั้งละ 25 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง จากนั้นค่อย ๆ เพิ่มปริมาณครั้งละ 25 มิลลิกรัม รับประทานวันเว้นวัน ทั้งนี้ เพิ่มปริมาณยาขึ้นเรื่อย ๆ ได้ถึง 150 มิลลิกรัมต่อวันโดยอาจแบ่งรับประทานมากกว่าวันละหนึ่งครั้ง หรืออาจเริ่มจากการรับประทานครั้งละ 50–100 มิลลิกรัมก่อนนอน และเพิ่มปริมาณครั้งละ 25–50 มิลลิกรัม โดยอาจเพิ่มปริมาณยาขึ้นเรื่อย ๆ ได้ถึง 150 มิลลิกรัมต่อวัน ปริมาณการใช้ยาในผู้สูงอายุ รับประทานวันละ 10–25 มิลลิกรัมในตอนเย็น โดยอาจค่อย ๆ เพิ่มปริมาณยาได้ถึง 100–150 มิลลิกรัมต่อวัน ขึ้นอยู่กับร่างกายของผู้ป่วย และควรใช้ยาด้วยความระมัดระวังหากจำเป็นต้องใช้ยานี้ในปริมาณที่มากกว่า 100 มิลลิกรัม ปริมาณการใช้ยาในผู้ใหญ่ เริ่มจากการรับประทานครั้งละ 10–25 มิลลิกรัมในตอนเย็น โดยอาจค่อย ๆ เพิ่มปริมาณยาครั้งละ 10–25 มิลลิกรัม ทุก 3–7 วันเมื่อร่างกายผู้ป่วยรับได้ ทั้งนี้ ปริมาณที่แนะนำในการรับประทานคือ 25–75 มิลลิกรัมต่อวันในตอนเย็น แพทย์อาจให้แบ่งรับประทานมากกว่าวันละครั้งหากผู้ป่วยต้องรับประทานมากกว่า 75 มิลลิกรัมต่อวัน ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่ใช้ยาในขนาดที่สูงกว่า 100 มิลลิกรัม ควรใช้ยาด้วยความระมัดระวัง ปริมาณการใช้ยาในผู้สูงอายุ เริ่มจากการรับประทานครั้งละ 10–25 มิลลิกรัมในตอนเย็น และอาจค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้นทีละน้อยตามสภาพร่างกายของผู้ป่วย หากจำเป็นต้องใช้ยานี้ในปริมาณที่ 75 มิลลิกรัม ควรใช้ยาด้วยความระมัดระวัง วิธีการใช้ยาเพื่อความปลอดภัย มีดังนี้ Amitriptyline เช่น ยาต้านเศร้า ยาแก้หวัดและภูมิแพ้ ยาแก้เมารถ ยารักษาโรคพาร์กินสัน หอบหืด ภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน (Overactive Bladder) โรคลำไส้แปรปรวน โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล และโรคทางจิตเวชอื่น ๆ เนื่องจาก Amitriptyline อาจทำให้ง่วงนอน จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาอื่นที่อาจทำให้ง่วงนอนเช่นกัน เช่น ยานอนหลับ ยาคลายกล้ามเนื้อ ยารักษาอาการซึมเศร้า วิตกกังวล และชัก รวมทั้งยาระงับปวดกลุ่มโอปิออยด์ (Opioid) เช่น ยาโคเดอีน (Codeine) มอร์ฟีน และยาออกซิโคโดน (Oxycodone) ตัวอย่างยาข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่อาจทำปฏิกิริยากับ Amitriptyline หากกำลังจะเริ่มใช้ยาหรือใช้ยาใด ๆ อยู่ ควรแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบก่อนเสมอ เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย อาการข้างเคียงจากยาที่พบได้ทั่วไป ได้แก่ ปวดศีรษะ ท้องผูก ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน การรับรสผิดปกติ เจ็บช่องปาก ปากแห้ง อยากอาหาร น้ำหนักเพิ่ม คัดหน้าอก ผื่น คัน ปัสสาวะน้อยกว่าปกติ ความต้องการทางเพศน้อยลงหรือหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ง่วงนอน และอ่อนเพลีย หากมีอาการต่อไปนี้ให้ไปพบแพทย์ทันทีAmitriptyline (อะมิทริปไทลีน)
เกี่ยวกับยา Amitriptyline
กลุ่มยา
ยาต้านโรคซึมเศร้า (Antidepressant)
ประเภทยา
ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ
รักษาอาการจากโรคซึมเศร้า โรคปลายประสาทอักเสบ อาการปวดไมเกรน และอาการปัสสาวะรดที่นอนในเด็ก
กลุ่มผู้ป่วย
เด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์และผู้ให้นมบุตร
Category C จากการศึกษาในสัตว์พบว่า ทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์สัตว์ แต่ไม่มีการศึกษาในมนุษย์ หรือไม่มีข้อมูลเพียงพอในการศึกษาทดลองในมนุษย์และสัตว์ ควรใช้ยาเมื่อพิจารณาแล้วว่า มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อทารกในครรภ์ หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังวางแผนมีบุตรจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา และยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็ก สตรีที่ให้นมบุตรไม่ควรรับประทาน
รูปแบบของยา
ยาเม็ด
คำเตือนการใช้ยา Amitriptyline
ปริมาณการใช้ยา Amitriptyline
อาการปัสสาวะรดที่นอน
ภาวะซึมเศร้า
อาการปวดประสาทและป้องกันไมเกรน
การใช้ยา Amitriptyline
ปฏิกิริยาระหว่าง Amitriptyline กับยาอื่น
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Amitriptyline