Drug name: อัลปราโซแลม
Description: อัลปราโซแลม (Alprazolam) เป็นยาในกลุ่มเบนโซไดอะซีปีน (Benzodiazepines) ที่ใช้รักษาอาการในกลุ่มโรควิตกกังวลและตื่นตระหนก ใช้รักษาอาการนอนไม่หลับ ภาวะซึมเศร้า ภาวะติดสุราเรื้อรัง รวมถึงยังใช้เป็นยาคลายกล้ามเนื้อและยาระงับอาการชักด้วย ในประเทศไทยจัดให้ยาอัลปราโซแลมเป็นวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 ซึ่งต้องได้รับการจ่ายยาโดยสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาตในการครอบครองเท่านั้น เนื่องจากตัวยามีฤทธิ์ต่อจิตและระบบประสาทส่วนกลางในสมอง ส่งผลให้มีการนำยาชนิดนี้ไปใช้ในทางที่ผิดอย่างการก่ออาชญากรรมหรือการล่วงละเมิดทางเพศ เกี่ยวกับยาอัลปราโซแลม คำเตือนในการใช้ยาอัลปราโซแลม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้ยา ผู้ใช้ยาควรระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้ ปริมาณการใช้ยาอัลปราโซแลม ปริมาณการใช้ยาอัลปราโซแลมจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยตัวอย่างการใช้ยามีดังนี้ โรควิตกกังวล (Anxiety Disorder) ตัวอย่างการใช้ยาอัลปราโซแลมเพื่อรักษาโรควิตกกังวล ผู้ใหญ่ เริ่มรับประทานยา 0.25–0.5 มิลลิกรัม วันละ 2-3 ครั้ง ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณยาหากจำเป็น โดยปริมาณยาสูงสุดไม่เกิน 4 มิลลิกรัม/วัน ผู้สูงอายุ เริ่มรับประทานยา 0.25 มิลลิกรัม วันละ 2–3 ครั้ง นอกจากนี้ให้รับประทานยาเหมือนผู้ใหญ่ โรคแพนิค (Panic Disorder) ตัวอย่างการใช้ยาอัลปราโซแลมเพื่อรักษาโรคแพนิค ผู้ใหญ่ เริ่มรับประทานยา 0.5 มิลลิกรัม วันละ 2- 3 ครั้ง สามารถค่อย ๆ เพิ่มปริมาณหากจำเป็นไม่เกินวันละ 1 มิลลิกรัม โดยทั่วไปใช้ปริมาณ 3-6 มิลลิกรัม/วัน ปริมาณยาสูงสุดไม่เกิน 10 มิลลิกรัม/วัน ผู้สูงอายุ เริ่มรับประทานยา 0.25 มิลลิกรัม วันละ 2–3 ครั้ง นอกจากนี้ให้รับประทานยาเหมือนผู้ใหญ่ การใช้ยาอัลปราโซแลม แพทย์จะสั่งจ่ายยาตามอาการหรือชนิดของโรคเป็นหลัก รวมไปถึงการพิจารณาอายุ ประวัติการแพ้ยา และการตอบสนองต่อยาของผู้ป่วยด้วย โดยรูปแบบยาและระดับความเข้มข้นของตัวยาที่ใช้รักษาในผู้ป่วยแต่ละคนจะแตกต่างกัน ซึ่งในประเทศไทยจะใช้ยาในรูปแบบเม็ด ขนาด 0.25, 0.5 และ 1 มิลลิกรัม ตัวยาจะถูกดูดซึมได้ดีและออกฤทธิ์ได้เร็วภายใน 1–2 ชั่วโมงหลังรับประทาน ผู้ป่วยควรใช้ยาภายใต้คำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ในกรณีที่ลืมรับประทานยา ควรรีบรับประทานทันทีเมื่อทราบ แต่หากใกล้เวลารับประทานยาในรอบถัดไป ให้ผู้ป่วยข้ามไปรับประทานยาของรอบถัดไปแทน ไม่ควรเพิ่มปริมาณยาเป็นสองเท่า การรับประทานยาเกินปริมาณที่แพทย์กำหนดหรือใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานนอกเหนือจากคำสั่งแพทย์อาจส่งผลให้เกิดอาการดื้อยาหรือเกิดผลข้างเคียงของการใช้ยาเกินขนาดได้ หากใช้ยาแล้วอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นในขณะที่ใช้ยา ควรหยุดใช้ยาทันทีและรีบปรึกษาแพทย์ นอกจากนี้ การเก็บรักษายาควรเก็บในที่มิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการนำยาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ปฏิกิริยาระหว่างยาอัลปราโซแลมกับยาอื่น ยาอัลปราโซแลมอาจทำปฏิกิริยากับยา วิตามิน หรือสมุนไพรบางชนิด ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงหรือทำให้ยามีประสิทธิภาพลดลง โดยเฉพาะยาต่อไปนี้ ตัวอย่างยาดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่อาจทำปฏิกิริยากับยาอัลปราโซแลมเท่านั้น หากผู้ป่วยกำลังใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ อยู่ ควรแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบก่อนเสมอ เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย ผลข้างเคียงจากการใช้ยาอัลปราโซแลม การใช้ยาอัลปราโซแลมอาจทำให้เกิดอาจทำให้เกิดอาการแพ้ยาอย่างอาการลมพิษ หายใจไม่ออก และมีอาการบวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ ซึ่งต้องรีบพบแพทย์ทันที รวมถึงอาจเกิดผลข้างเคียงอื่น เช่น ง่วงซึม วิงเวียนศีรษะ สายตาพร่ามัว คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ประสิทธิภาพในการเรียนรู้และการจดจำลดลง มีปัญหาด้านการพูด มีอาการซึมเศร้า หรืออาจเกิดปฏิกิริยาในทางตรงกันข้ามอย่างตื่นเต้น ใจสั่น หรือกังวล ก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ หากหยุดใช้ยาอย่างกระทันหันอาจทำให้เกิดอาการถอนยาขึ้นได้ ซึ่งอาหารถอนยาสามารถเกิดขึ้นนานถึง 1 ปีหลังจากหยุดใช้ยาหรืออาจเกิดขึ้นนานกว่านั้น ซึ่งอาการถอนยามักมีอาการดังนี้ ดังนั้น หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นหลังจากการใช้ยาหรือหลังจากการหยุดใช้ยาอัลปราโซแลม ควรไปปรึกษาแพทย์อัลปราโซแลม (Alprazolam)
กลุ่มยา
ยาแก้เครียด
ประเภทยา
ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ
คลายความกังวล ตื่นตระหนกตกใจ
กลุ่มผู้ป่วย
ผู้ใหญ่
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์และผู้ให้นมบุตร
Category D จากการศึกษาในมนุษย์ พบความเสี่ยงทำให้เกิดความผิดปกติต่อทารกในครรภ์ จะใช้ก็ต่อเมื่อพิจารณาแล้วว่า ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อมารดาและยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดต่อทารกในครรภ์ โดยมากมักใช้ในกรณีที่จำเป็นในการช่วยชีวิต หรือใช้รักษาโรคร้ายแรงของมารดา ซึ่งไม่สามารถใช้ยาอื่น ๆ ทดแทนได้ ดังนั้น ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือวางแผนที่จะตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนหากจำเป็นต้องใช้ยา รวมถึงผู้ที่กำลังให้นมบุตร หากกำลังใช้ยาอยู่ไม่ควรให้นมบุตรเพราะตัวยาสามารถซึมผ่านน้ำนมมารดาและอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเด็กทารกได้
รูปแบบของยา
ยารับประทาน