Drug name: อะดาลิมูแมบ
Description: Adalimumab หรือ อะดาลิมูแมบ เป็นยาที่ใช้ลดอาการปวดหรืออักเสบ มักใช้รักษาโรคอักเสบเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคสะเก็ดเงิน โรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบยึดติด (Ankylosing Spondylitis) และโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ เป็นต้น นอกจากนี้ แพทย์อาจใช้ยานี้รักษาโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจ ยา Adalimumab มีข้อห้ามใช้และอาจเกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้น การใช้ยาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรเสมอ ยา Adalimumab มีข้อควรระวังในการใช้ ดังนี้ แพทย์อาจกำหนดปริมาณยาในการรักษาแตกต่างกันไปตามโรคและความรุนแรง โดยยาอะดาลิมูแมบมีตัวอย่างปริมาณการใช้ยาในการรักษาโรค ดังนี้ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ตัวอย่างการใช้ยาอะดาลิมูแมบในการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์มี ดังนี้ ผู้ใหญ่ ใช้ยา Adalimumab ปริมาณ 40 มิลลิกรัมฉีดเข้าใต้ผิวหนัง 1 ครั้ง/สัปดาห์ โดยใช้ยาสัปดาห์เว้นสัปดาห์ หากใช้ยาชนิดนี้ในการรักษาเพียงชนิดเดียว แพทย์อาจแนะนำให้เพิ่มปริมาณยาในสัปดาห์ถัด ๆ ไป โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ในเด็ก ตัวอย่างการใช้ยาอะดาลิมูแมบในการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ในเด็กมี ดังนี้ เด็ก เด็กอายุ 4-15ปี ที่มีน้ำหนักระหว่าง 15-30 กิโลกรัม ใช้ยา Adalimumab ปริมาณ 20 มิลลิกรัมฉีดเข้าใต้ผิวหนัง 1 ครั้ง/สัปดาห์ โดยใช้ยาสัปดาห์เว้นสัปดาห์ เด็กที่มีน้ำหนัก 30 กิโลกรัมขึ้นไป ใช้ยา Adalimumab ปริมาณ 40 มิลลิกรัมฉีดเข้าใต้ผิวหนังสัปดาห์เว้นสัปดาห์ โรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบยึดติดและโรคสะเก็ดเงินข้ออักเสบ ตัวอย่างการใช้ยาอะดาลิมูแมบในการรักษาโรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบยึดติดและโรคสะเก็ดเงินมี ดังนี้ ผู้ใหญ่ ใช้ยา Adalimumab ปริมาณ 40 มิลลิกรัมฉีดเข้าใต้ผิวหนัง 1 ครั้ง/สัปดาห์ โดยใช้ยาสัปดาห์เว้นสัปดาห์ โรคโครห์นและโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ ตัวอย่างการใช้ยาอะดาลิมูแมบในการรักษาโรคโครห์นและโรคลำไส้ใหญ่อักเสบมี ดังนี้ ผู้ใหญ่ ผู้ที่มีระดับความรุนแรงของโรคในระดับปกติไปจนถึงขั้นรุนแรง ระยะแรกใช้ยา Adalimumab ปริมาณ 160 มิลลิกรัมฉีดเข้าใต้ผิวหนัง โดยแพทย์อาจแบ่งการฉีดยาเป็น 4 ครั้ง ครั้งละ 40 มิลลิกรัมภายในหนึ่งวัน หรือแบ่งการฉีดยาเป็น 4 ครั้ง ครั้งละ 40 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ต่อเนื่องกัน 2 วัน จากนั้นฉีดยา Adalimumab ปริมาณ 80 มิลลิกรัมฉีดเข้าใต้ผิวหนังหลังจากการฉีดครั้งแรก 15 วัน โดยหลังจากฉีดยาครั้งแรก 29 วัน ใช้ยา Adalimumab ปริมาณ 40 มิลลิกรัมฉีดเข้าใต้ผิวหนัง 1 ครั้ง/สัปดาห์ โดยฉีดยาสัปดาห์เว้นสัปดาห์ บางกรณีแพทย์อาจให้เพิ่มการฉีดเป็นทุกสัปดาห์ และหากผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาชนิดนี้ แพทย์จะประเมินซ้ำภายใน 8 สัปดาห์สำหรับโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ และ 12 สัปดาห์สำหรับโรคโครห์น ยาอะดาลิมูแมบมีวิธีการใช้ ดังนี้ ยา Adalimumab อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป เช่น คัดจมูก จาม เจ็บคอ ปวดศีรษะ ผื่นขึ้น หรือเกิดความผิดปกติบริเวณผิวหนังที่ฉีด อย่างรอยแดง รอยช้ำ คัน และบวม เป็นต้น แม้ว่าอาการเหล่านี้อาจพบได้ทั่วไป แต่ถ้าหากไม่หายหรืออาการรุนแรงขึ้นควรไปพบแพทย์ นอกจากนี้ ยานี้ยังอาจทำให้เกิดอาการที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งหากอาการต่อไปนี้ปรากฏขึ้น ควรหยุดใช้ยาและไปพบแพทย์ อย่างไรก็ตาม หากมีอาการนอกเหนือจากนี้ควรหยุดใช้ยาและไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับ :อะดาลิมูแมบ
เกี่ยวกับยา Adalimumab
กลุ่มยา
ยากดภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressants)
ประเภทยา
ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ
ใช้รักษาโรคข้ออักเสบ โรคสะเก็ดเงิน โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ
กลุ่มผู้ป่วย
ผู้ใหญ่
รูปแบบของยา
ยาฉีด
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์
ปัจจุบันยังไม่มีการระบุวิธีใช้ยา Adalinumab ในหญิงตั้งครรภ์อย่างชัดเจน ซึ่งจากการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่ายานี้ไม่เป็นอันตรายหรือก่อให้เกิดความผิดปกติต่อทารกในครรภ์ อย่างไรก็ตาม หญิงตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นก่อนใช้ยานี้ ส่วนผู้หญิงที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยยานี้ ควรใช้มีการคุมกำเนิดระหว่างการใช้ยาและหลังจากใช้ยานี้ อย่างน้อย 5 เดือน
คำเตือนในการใช้ยา Adalimumab
ปริมาณการใช้ยา Adalimumab
การใช้ยา Adalimumab
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Adalimumab
การใช้ยานี้อาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้เล็กน้อย จึงควรหมั่นสังเกตสัญญาณของโรค เช่น เป็นไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต เหงื่อออกขณะนอนหลับ ปวดกล้ามเนื้อ รอยช้ำ มีเลือดไหล ผิวซีด เวียนศีรษะ มือเท้าเย็น ปวดท้องส่วนบนซึ่งอาจลามไปบริเวณไหล่ เบื่ออาหาร อิ่มเร็ว และน้ำหนักลด เป็นต้น
เนื่องจากยานี้ออกฤทธิ์กดภูมิคุ้มกันทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หากมีอาการไข้ หนาวสั่น เหงื่อออกตอนกลางคืน หายใจลำบาก ปัสสาวะบ่อย รู้สึกแสบขณะปัสสาวะ ตกขาวผิดปกติ เกิดผื่นสีขาวในปาก หรือไอและเจ็บคอต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
ยานี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย อย่างเป็นไข้ ปวดตามร่างกาย ปวดท้อง ปวดข้อต่อ ข้อต่อบวม เจ็บหน้าอก เหนื่อยล้า อาเจียน เบื่ออาหาร น้ำหนักขึ้นแบบฉับพลันหรือขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ผื่นขึ้นบริเวณจมูกและแก้ม ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระปนเลือด ดีซ่าน หายใจถี่ ผิวหนังไวต่อแสง รู้สึกชา เป็นเหน็บ แขนหรือขาอ่อนแรง มีปัญหาในการเคี้ยว กลืน พูด หรือเคลื่อนไหวใบหน้า ชัก สะเก็ดเงินกำเริบ หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นผิดจังหวะ อารมณ์แปรปรวน การมองเห็นผิดปกติ
อาการแพ้ยา อย่างผื่นลมพิษตามตัว มีอาการบวมบริเวณใบหน้า ปาก ลิ้น คอ หรือหายใจลำบาก