Drug name: voriconazole-โวริโคนาโซล
Description: Voriconazole (โวริโคนาโซล) เป็นยาต้านเชื้อราที่ใช้รักษาการติดเชื้อราที่รุนแรงในร่างกายและกระแสเลือด โดยจะออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา นอกจากนี้ แพทย์อาจใช้ยานี้เพื่อรักษาการติดเชื้อราในบริเวณอื่นของร่างกายอย่างหลอดอาหาร หรือโรคอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา ผู้ป่วยควรระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้ ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาจะขึ้นอยู่กับช่วงอายุ ชนิดของยา และดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยา ดังนี้ ตัวอย่างการใช้ยา Voriconazole เพื่อรักษาโรคติดเชื้อแคนดิดาในกระแสเลือด โรคติดเชื้อแคนดิดาในกล้ามเนื้อชั้นลึก โรคติดเชื้อราแอสเปอร์จิลลัสชนิดลุกลาม โรคติดเชื้อรา Scedosporium และโรคติดเชื้อรา Fusarium เด็กอายุ 2–14 ปี ที่มีน้ำหนักตัวน้อยกว่า 50 กิโลกรัม แพทย์จะฉีดยา 9 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุก 12 ชั่วโมง จนครบ 24 ชั่วโมง และปรับปริมาณยาเป็นครั้งละ 8 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุก 12 ชั่วโมง โดยอัตราการให้ยาสูงสุดไม่เกิน 3 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/ชั่วโมง ทั้งนี้ แพทย์อาจเปลี่ยนเป็นยาชนิดรับประทานแทนหากผู้ป่วยสามารถรับประทานยาได้ ผู้ใหญ่ แพทย์จะฉีดยาครั้งละ 6 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุก 12 ชั่วโมง จนครบ 24 ชั่วโมงจากนั้นฉีดครั้งละ 4 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุก 12 ชั่วโมง หรือฉีดยาครั้งละ 3–4 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุก 12 ชั่วโมง สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อแคนดิดาในกระแสเลือดที่ไม่มีภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ ผู้ที่ติดเชื้อแคนดิดาในเนื้อเยื่อชั้นลึก หรือผู้ที่ไม่สามารถรับยาในปริมาณมากได้ โดยมีระยะเวลาในการฉีดยาสูงสุดไม่เกิน 6 เดือน และอัตราการให้ยาสูงสุดไม่เกิน 3 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 1–2 ชั่วโมง ทั้งนี้ แพทย์อาจเปลี่ยนเป็นยาชนิดรับประทานแทนหากผู้ป่วยสามารถรับประทานยาได้ เด็กอายุ 2–14 ปี ที่มีน้ำหนักตัวน้อยกว่า 50 กิโลกรัม ให้รับประทานยาครั้งละ 9 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุก 12 ชั่วโมง โดยปริมาณยาสูงสุดไม่ควรเกินครั้งละ 350 มิลลิกรัม ผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนัก 40 กิโลกรัมขึ้นไป รับประทานครั้งละ 400 มิลลิกรัม หรือครั้งละ 10 มิลลิลิตรสำหรับยาชนิดน้ำ ทุก 12 ชั่วโมง จนครบ 24 ชั่วโมง จากนั้นรับประทานครั้งละ 200 มิลลิกรัม หรือครั้งละ 5 มิลลิลิตรสำหรับยาชนิดน้ำ ทุก 12 ชั่วโมง หากจำเป็นอาจเพิ่มปริมาณยาเป็นครั้งละ 300 มิลลิกรัม ทุก 12 ชั่วโมง หรือค่อย ๆ ลดปริมาณยาลงครั้งละ 50 มิลลิกรัม ผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 40 กิโลกรัม รับประทานครั้งละ 200 มิลลิกรัม หรือครั้งละ 5 มิลลิลิตรสำหรับยาชนิดน้ำ ทุก 12 ชั่วโมง จนครบ 24 ชั่วโมง จากนั้นรับประทานครั้งละ 100 มิลลิกรัม หรือครั้งละ 2.5 มิลลิลิตรสำหรับยาชนิดน้ำ ทุก 12 ชั่วโมง โดยอาจเพิ่มปริมาณยาเป็นครั้งละ 150 มิลลิกรัม ทุก 12 ชั่วโมง หรือค่อย ๆ ลดปริมาณยาลงครั้งละ 50 มิลลิกรัมตามความเหมาะสม ในกรณีผู้ป่วยติดเชื้อแคนดิดาบริเวณหลอดอาหาร ให้รับประทานยาติดต่อกันอย่างน้อย 14 วัน และรับประทานยาต่อเนื่องอีก 7 วันหลังจากอาการหายดี ผู้ป่วยที่รับประทานยา Voriconazole ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เภสัชกร หรือฉลากยาอย่างเคร่งครัด และไม่ควรหยุดรับประทานยาเองเพื่อป้องกันการติดเชื้อราซ้ำ ในกรณีที่รับประทานยาชนิดน้ำหรือยาน้ำแขวนตะกอน ควรเขย่าขวดก่อนและใช้อุปกรณ์สำหรับตวงยาโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันการรับประทานยาเกินขนาด ยา Voriconazole เป็นยาที่ควรรับประทานขณะท้องว่าง โดยอาจเลือกรับประทานยาก่อนหรือหลังอาหารอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หากลืมรับประทานยาตามเวลาที่กำหนด ให้รับประทานยาทันที แต่หากใกล้ถึงเวลารอบถัดไป ให้ข้ามไปรับประทานในรอบถัดไปโดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า และแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบหากลืมรับประทานยาบ่อย ๆ สำหรับการเก็บรักษายา ควรเก็บยาไว้ในอุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงความชื้น เก็บให้พ้นมือเด็ก และไม่ควรใช้ยาหากยาหมดอายุ หากรับประทานยาชนิดยาน้ำแขวนตะกอน ให้เก็บผงยาไว้ในตู้เย็นที่มีอุณหภูมิ 2–8 องศาเซลเซียส ในกรณีที่ผสมผงยากับน้ำแล้ว ไม่ควรเก็บยาไว้ในตู้เย็น ให้เก็บยาไว้ในอุณหภูมิห้อง แต่ไม่ควรเก็บไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิเกิน 30 องศาเซลเซียส และไม่ควรรับประทานยาที่ผสมน้ำทิ้งไว้เกิน 14 วัน ยาโวริโคนาโซลอาจส่งผลให้ผู้ใช้เกิดผลข้างเคียงบางอย่าง เช่น คัดจมูก จาม ปวดไซนัส ไอ เจ็บคอ เลือดกำเดาไหล ไอปนเลือด ท้องเสีย ท้องอืด ท้องผูก คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง มีไข้ขึ้น หนาวสั่น ผื่นขึ้น ปวดศีรษะ หรือความดันโลหิตต่ำลงหรือสูงขึ้น ซึ่งหากพบอาการในข้างต้นและอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง ให้หยุดใช้ยาและแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ป่วยควรหยุดใช้ยาและไปพบแพทย์ทันที หากพบผลข้างเคียงบางอย่างที่รุนแรง เช่นVoriconazole (โวริโคนาโซล)
เกี่ยวกับยา Voriconazole
กลุ่มยา
ยาต้านเชื้อราในกลุ่มเอโซล (Azole Antifungals)
ประเภทยา
ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ
รักษาการติดเชื้อราขั้นรุนแรง
กลุ่มผู้ป่วย
เด็กอายุ 2 ปีขึ้นไป และผู้ใหญ่
รูปแบบของยา
ยาฉีด ยารับประทาน
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์และผู้ให้นมบุตร
Category D จากการศึกษาในมนุษย์ พบความเสี่ยงทำให้เกิดความผิดปกติต่อทารกในครรภ์ จะใช้ก็ต่อเมื่อพิจารณาแล้วว่า ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อมารดาและยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดต่อทารกในครรภ์ โดยมากมักใช้ในกรณีที่จำเป็นในการช่วยชีวิต หรือใช้รักษาโรคร้ายแรงของมารดา ซึ่งไม่สามารถใช้ยาอื่น ๆ ทดแทนได้ ดังนั้น ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ผู้ที่อยู่ระหว่างให้นมบุตร รวมถึงผู้ที่วางแผนจะมีบุตรควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา Voriconazole
คำเตือนในการใช้ยา Voriconazole
ปริมาณการใช้ยา Voriconazole
โรคติดเชื้อราในร่างกายและกระแสเลือด
ยาฉีด
ยารับประทาน
การใช้ยา Voriconazole
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Voriconazole