Drug name: azithromycin
Description: Azithromycin (อะซิโธรมัยซิน) เป็นยาปฏิชีวนะกลุ่มแมคโครไลด์ (Macrolide) ที่ใช้รักษาอาการติดเชื้อจากแบคทีเรีย เช่น โรคปอดบวม โรคหลอดลมอักเสบ ทอนซิลอักเสบ ไซนัสอักเสบ การติดเชื้อที่หูชั้นกลาง รวมถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างหนองในแท้และหนองในเทียม โดยตัวยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้ แพทย์อาจใช้รักษาโรคหรือภาวะผิดปกติอื่น ๆ ด้วยตามดุลยพินิจ เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา Azithromycin ผู้ใช้ยาควรระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ ปริมาณการใช้ยา Azithromycin จะแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละคน ขึ้นอยู่กับอายุของผู้ป่วย จุดประสงค์การรักษา และดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยาดังนี้ ผู้ใหญ่ สำหรับยาชนิดฉีด แพทย์จะให้ยาทางหลอดเลือดดำในปริมาณ 500 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 2 วัน โดยยาที่มีความเข้มข้น 1 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร จะให้ยาภายในระยะเวลา 3 ชั่วโมง หรือยาที่มีความเข้มข้น 2 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร จะปรับเวลาให้ยาเป็น 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นจะปรับเป็นยาชนิดรับประทานแทน โดยให้รับประทานในปริมาณ 500 มิลลิกรัม/วัน เป็นระยะเวลา 7–10 วัน ส่วนกรณีที่ใช้ยาชนิดรับประทาน แพทย์อาจเลือกเป็นชนิดออกฤทธิ์ทันทีหรือชนิดออกฤทธิ์นาน ขึ้นอยู่กับผู้ป่วยแต่ละคน หากเป็นชนิดออกฤทธิ์ทันที ให้รับประทานในปริมาณ 500 มิลลิกรัมในวันแรก และปรับเป็น 250 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง เป็นระยะเวลา 4 วัน หากเป็นยารับประทานชนิดออกฤทธิ์นาน ให้รับประทานในปริมาณ 2 กรัม เพียงครั้งเดียว เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป แพทย์จะให้ยาชนิดรับประทาน ซึ่งอาจเป็นชนิดออกฤทธิ์ทันทีหรือชนิดออกฤทธิ์นาน หากเป็นชนิดออกฤทธิ์ทันที ให้รับประทานในปริมาณ 10 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เพียงครั้งเดียวในวันแรก และปรับเป็น 5 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน ติดต่อกัน 4 วัน หากเป็นยารับประทานชนิดออกฤทธิ์นาน ให้รับประทานในปริมาณ 60 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เพียงครั้งเดียว ทั้งนี้ ปริมาณยาสูงสุดไม่ควรเกินวันละ 2 กรัม ผู้ใหญ่ ในช่วงแรกจะให้ยาทางหลอดเลือดดำในปริมาณ 500 มิลลิกรัม/วัน เป็นระยะเวลา 1–2 วัน โดยยาที่มีความเข้มข้น 1 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร จะให้ยาภายในระยะเวลา 3 ชั่วโมง หรือยาที่มีความเข้มข้น 2 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร จะให้ยาภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นจะปรับเป็นยาชนิดรับประทานแทน โดยให้รับประทานในปริมาณ 250 มิลลิกรัม/วัน เป็นระยะเวลา 7 วัน เด็กอายุ 1 ปีขึ้นไปและผู้ใหญ่ กรณีที่ใช้ยาที่มีความเข้มข้น 1% ให้หยอดตาข้างที่มีอาการวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 1 หยด เป็นระยะเวลา 2 วัน และปรับเป็นวันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 หยด เป็นระยะเวลา 5 วัน ซึ่งระยะห่างในการหยอดตาแต่ละครั้งควรห่างกันประมาณ 8–12 ชั่วโมง กรณีที่ใช้ยาที่มีความเข้มข้น 1.5% ให้หยอดตาไปในกระพุ้งตา วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ครั้งละ 1 หยด เป็นระยะเวลา 3 วัน ผู้ใหญ่ ให้รับประทานยาในปริมาณ 1 กรัม ในครั้งเดียว เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป ในช่วงแรกให้รับประทานยาน้ำแขวนตะกอนชนิดออกฤทธิ์ทันทีในปริมาณ 30 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เพียงครั้งเดียว หรือ 10 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม วันละ 3 ครั้ง เป็นระยะเวลา 3 วัน หรือ 10 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เพียงครั้งเดียว จากนั้นปรับปริมาณเป็น 5 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน เป็นระยะเวลา 4 วัน ผู้ใหญ่ ให้รับประทานยาในปริมาณ 1 หรือ 2 กรัม เพียงครั้งเดียวร่วมกับยาเซฟไตรอะโซน (Ceftriaxone) เด็กที่อายุมากกว่า 2 ปี ให้รับประทานยาชนิดออกฤทธิ์ทันทีในปริมาณ 12 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน เป็นระยะเวลา 5 วัน ผู้ที่ใช้ยา Azithromycin ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรอย่างเคร่งครัด ไม่ควรใช้ยาในปริมาณที่มากหรือน้อยกว่าที่แพทย์กำหนด และไม่ควรหยุดยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน ผู้ที่ใช้ยาชนิดรับประทานเป็นแคปซูลหรือยาแขวนตะกอนชนิดออกฤทธิ์นาน ให้รับประทานยาในขณะท้องว่าง หรือประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนอาหารหรือ 2 ชั่วโมงหลังอาหาร หากเป็นยาเม็ดหรือยาแขวนตะกอนชนิดออกฤทธิ์ทันที สามารถรับประทานได้ทั้งก่อนและหลังอาหาร กรณีที่รับประทานยาแล้วรู้สึกระคายเคืองกระเพาะอาหาร ให้รับประทานหลังอาหารแทน นอกจากนี้ ยาแขวนตะกอนควรเขย่าขวดก่อนรับประทานยาทุกครั้ง เพื่อให้ตัวยาผสมเข้ากันดีก่อนรับประทาน และให้ใช้อุปกรณ์สำหรับตวงยาเสมอ เพื่อป้องกันการรับประทานยาเกินหรือต่ำกว่าปริมาณที่แพทย์กำหนด หากลืมรับประทานยาตามเวลาที่แพทย์สั่ง เมื่อนึกขึ้นได้สามารถรับประทานได้ทันที หากลืมรับประทานยาใกล้กับมื้ออาหารถัดไป ให้รับประทานยาในขนาดปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเพื่อทดแทนมื้อที่ขาดหายไป และควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากลืมรับประทานยาบ่อย ๆ ในระหว่างที่ใช้ยานี้ แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยมาตรวจร่างกาย เช่น ตรวจเลือดและตรวจการทำงานของตับเพื่อติดตามอาการ ซึ่งผู้ป่วยควรไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง สำหรับการเก็บรักษายา ควรเก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง เก็บให้พ้นมือเด็ก และไม่ควรเก็บในที่ที่มีความร้อนและความชื้น ผู้ที่ต้องใช้ยา Azithromycin ควรแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบก่อน หากกำลังใช้ยาชนิดใด ๆ หรือผลิตภัณฑ์สมุนไพรและผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต่าง ๆ อยู่ โดยเฉพาะยารักษาโรคหัวใจ ยาแก้แพ้ ยาที่แพทย์ให้หลังจากปลูกถ่ายอวัยวะ และยาละลายลิ่มเลือด ผู้ที่ใช้ยา Azithromycin อาจเกิดผลข้างเคียงบางอย่างจากการใช้ยาได้ โดยอาการที่พบได้บ่อย เช่น เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ระคายเคืองกระเพาะอาหาร เบื่ออาหาร กระบวนการรับรู้รสเปลี่ยนไป และรู้สึกชาตามผิวหนัง ซึ่งผู้ป่วยควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากพบอาการเหล่านี้แล้วอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรหยุดใช้ยาแล้วรีบไปพบแพทย์ทันที หากพบอาการที่มีความรุนแรง เช่น ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับ :อะซิโธรมัยซิน (Azithromycin)
เกี่ยวกับยา Azithromycin
กลุ่มยา
ยาปฏิชีวนะ
ประเภทยา
ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ
รักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย
กลุ่มผู้ป่วย
เด็กและผู้ใหญ่
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์และผู้ให้นมบุตร
Category B จากการศึกษาในสัตว์ ไม่พบความเสี่ยงในการทำให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์สัตว์ แต่ไม่มีการศึกษาในมนุษย์หรืออาจพบผลไม่พึงประสงค์ในสัตว์ และยังไม่พบความเสี่ยงในมนุษย์เมื่อใช้ในช่วงสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์ รวมทั้งไม่มีหลักฐานทางการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า มีความเสี่ยงเมื่อใช้ในช่วงหลังเดือนที่สามเป็นต้นไป ดังนั้น หญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ช่วงให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
รูปแบบของยา
ยารับประทาน ยาฉีด และยาหยอดตา
คำเตือนในการใช้ยา Azithromycin
ปริมาณการใช้ยา Azithromycin
โรคปอดอักเสบชุมชน (Community-Acquired Pneumonia)
ตัวอย่างการใช้ยา Azithromycin เพื่อรักษาโรคปอดอักเสบชุมชน ได้แก่ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ
ตัวอย่างการใช้ยา Azithromycin เพื่อรักษาภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ ได้แก่เยื่อบุตาอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
ตัวอย่างการใช้ยา Azithromycin เพื่อรักษาภาวะเยื่อบุตาอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ได้แก่แผลริมอ่อน หรือการติดเชื้อเชื้อคลาไมเดีย (Chlamydia Trachomatis) ที่อวัยวะเพศ
ตัวอย่างการใช้ยา Azithromycin เพื่อรักษาแผลริมอ่อน หรือการติดเชื้อเชื้อคลาไมเดียที่อวัยวะเพศ ได้แก่หูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน
ตัวอย่างการใช้ยา Azithromycin เพื่อรักษาภาวะหูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน ได้แก่โรคหนองในชนิดไม่มีภาวะแทรกซ้อน
ตัวอย่างการใช้ยา Azithromycin เพื่อรักษาโรคหนองในชนิดไม่มีภาวะแทรกซ้อน ได้แก่ภาวะคออักเสบ หรือทอนซิลอักเสบ
ตัวอย่างการใช้ยา Azithromycin เพื่อรักษาภาวะคออักเสบ หรือทอนซิลอักเสบ ได้แก่การใช้ยา Azithromycin
ปฏิกิริยาระหว่างยา Azithromycin กับยาอื่น
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Azithromycin