Drug name: เตตราเบนาซีน

Description:

เตตราเบนาซีน

เตตราเบนาซีน

Share:

Tetrabenazine (เตตราเบนาซีน) เป็นยาในกลุ่มโมโนเอมีน ดีพลีเตอร์ ออกฤทธิ์ช่วยลดสารสื่อประสาทในสมอง เช่น โดพามีน เซโรโทนิน และนอร์อิพิเนฟริน เป็นต้น ซึ่งสารเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการทำงานของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ โดยยานี้ช่วยให้การเคลื่อนไหวที่ผิดปกติอันเกิดจากโรคฮันติงตันลดน้อยลง และอาจช่วยให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ยา Tetrabenazine ทำได้เพียงบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่ไม่สามารถรักษาโรคดังกล่าวให้หายขาดได้

เกี่ยวกับยา Tetrabenazine

กลุ่มยา โมโนเอมีน ดีพลีเตอร์
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ ช่วยลดการเคลื่อนไหวผิดปกติที่เกิดจากโรคฮันติงตัน
กลุ่มผู้ป่วย ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ
รูปแบบของยา ยารับประทาน
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์ Category C จากการศึกษาในสัตว์พบว่า ทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์สัตว์
แต่ไม่มีการศึกษาในมนุษย์ หรือไม่มีข้อมูลเพียงพอในการศึกษาทดลองในมนุษย์และสัตว์
ควรใช้ยาเมื่อพิจารณาแล้วว่า มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อทารกในครรภ์

คำเตือนในการใช้ยา Tetrabenazine

  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา หากมีประวัติแพ้ยาหรือส่วนประกอบของยาชนิดนี้ รวมถึงแพ้ยาและสารอื่น ๆ เพราะยา Tetrabenazine อาจมีส่วนประกอบที่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือเกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมาได้
  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา หากป่วยเป็นโรคซึมเศร้า โรคตับ มีความคิดฆ่าตัวตาย หรือเคยมีอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ  แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยา วิตามิน หรือสมุนไพรทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่ เพราะยาบางชนิดอาจทำปฏิกิริยากับยานี้จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงหรือทำให้ยามีประสิทธิภาพลดลงได้ เช่น ยาดูเตตราเบนาซีน ยาวาลเบนาซีน เป็นต้น รวมถึงยาที่ส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติในบางประเภทด้วย
  • ไม่ควรใช้ยาต้านเศร้าในกลุ่มเอ็มเอโอไอ เช่น ยาไอโซคาร์บอกซาซิด ยาฟีเนลซีน ยาราซากิลีน และยาเซเลกิลีน เป็นต้น ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนและหลังใช้ยา Tetrabenezine เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้
  • ผู้ป่วยควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากเคยเข้ารับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแล้วพบค่า QT ที่ผิดปกติมาก่อน เนื่องจากยานี้อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติของหัวใจได้มากขึ้น
  • ห้ามเริ่มใช้ยา หยุดใช้ยา หรือเปลี่ยนปริมาณยาด้วยตนเองโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์
  • หากผู้ป่วยโรคฮันติงตันพบว่ามีอาการอื่น ๆ เกิดขึ้นมาใหม่ หรือมีอาการแย่ลงหลังจากใช้ยา ควรไปพบแพทย์ทันที
  • ผู้ป่วยอาจต้องตรวจเลือดในขณะที่ใช้ยานี้อยู่บ่อยครั้ง
  • ผู้ป่วยควรระมัดระวังขณะขับขี่ยานพาหนะหรือขณะทำกิจกรรมที่ต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะยาอาจทำให้เวียนศีรษะหรือง่วงนอนได้
  • ควรลุกขึ้นจากท่านั่งหรือท่านอนอย่างช้า ๆ และระมัดระวังในการขึ้นลงบันได เพราะยาอาจทำให้เวียนศีรษะได้
  • ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์เรื่องการดื่มแอลกอฮอล์ในขณะที่ใช้ยานี้ เพราะยาอาจทำให้เวียนศีรษะและง่วงซึมได้
  • ผู้สูงอายุโดยเฉพาะผู้ป่วยที่เข้ารับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแล้วพบค่า QT ที่ผิดปกติ อาจเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงได้ง่ายกว่าผู้ป่วยทั่วไป
  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือวางแผนจะมีบุตรควรปรึกษาแพทย์ถึงผลดีผลเสียและความเสี่ยงต่อทารกก่อนใช้ยานี้
  • ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการให้นมบุตรในขณะที่ใช้ยานี้ เพราะยาอาจซึมผ่านน้ำนมมารดาและเป็นอันตรายต่อทารกได้

ปริมาณการใช้ยา Tetrabenazine

ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยา ดังนี้

การเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ ในรูปแบบท่าทางที่ผิดปกติ (Tardive Dyskinesia)
ตัวอย่างการใช้ยารักษาการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ ในรูปแบบท่าทางที่ผิดปกติในระดับปานกลางและรุนแรง

ผู้ใหญ่ เริ่มรับประทานยาปริมาณ 12.5 มิลลิกรัม/วัน และค่อย ๆ เพิ่มปริมาณตามการตอบสนองต่อยา

การเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ
ตัวอย่างการใช้ยารักษาการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ

ผู้ใหญ่ เริ่มรับประทานยาปริมาณ 12.5 มิลลิกรัม 2 ครั้ง/วัน แล้วค่อย ๆ เพิ่มปริมาณเป็น 12.5-25 มิลลิกรัม 3 ครั้ง/วัน โดยเพิ่มปริมาณยาสูงสุดไม่เกิน 200 มิลลิกรัม/วัน อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยรายใดรับประทานยาเป็นเวลา 1 สัปดาห์ที่ปริมาณยาสูงสุดแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ยานี้อาจใช้ไม่ได้ผลกับผู้ป่วยรายนั้น

ผู้สูงอายุ เริ่มรับประทานยาปริมาณ 12.5 มิลลิกรัม แล้วค่อย ๆ เพิ่มปริมาณยาขึ้นเรื่อย ๆ

การใช้ยา Tetrabenazine

  • ใช้ยาตามฉลากและตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ห้ามใช้ยานี้ในปริมาณมากกว่า น้อยกว่า หรือติดต่อกันนานกว่าที่แพทย์แนะนำ หากมีข้อสงสัยใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา
  • รับประทานยานี้พร้อมหรือไม่พร้อมอาหารก็ได้
  • ใช้ยาให้ครบกำหนดตามที่แพทย์สั่ง แม้ผู้ป่วยจะรู้สึกดีขึ้นแล้วก็ตาม
  • ห้ามให้ผู้อื่นใช้ยานี้ และห้ามใช้ยาของผู้อื่น
  • หากผู้ป่วยลืมรับประทานยา ให้รับประทานทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่หากใกล้ช่วงเวลาของยารอบถัดไป ให้ข้ามไปรับประทานยาตามเวลาปกติ โดยห้ามเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
  • หากใช้ยาเกินปริมาณที่กำหนด ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจทำให้หมดสติหรือหายใจลำบากได้
  • เก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากความชื้น ความร้อน และแสงแดด โดยเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง รวมถึงปรึกษาวิธีการเก็บรักษาและการกำจัดยาที่ถูกต้องจากแพทย์และเภสัชกรด้วย

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Tetrabenazine

การใช้ยา Tetrabenazine อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น รู้สึกง่วง เวียนศีรษะ เหนื่อยล้าหรืออ่อนแรง คลื่นไส้ อาเจียน ไม่สบายท้องหรือท้องเสีย วิตกกังวล และมีสัญญาณของไข้หวัด เป็นต้น

ทั้งนี้ ผู้ป่วยควรหยุดใช้ยาและไปพบแพทย์ทันทีหากเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง แม้อาจพบได้ยากก็ตาม ดังนี้

  • มีอาการแพ้ยา เช่น ผื่น ลมพิษ อาการคัน ผิวหนังบวมแดงหรือพอง ผิวลอกที่อาจมีไข้หรือไม่มีไข้ร่วมด้วย มีเสียงหวีดขณะหายใจ แน่นหน้าอกหรือบริเวณลำคอ มีปัญหาเรื่องการหายใจ การกลืน หรือการพูด เสียงแหบผิดปกติ มีอาการบวมบริเวณปาก ริมฝีปาก ลิ้น คอ และใบหน้า เป็นต้น
  • มีกลุ่มอาการเอ็นเอ็มเอส (Neuroleptic Malignant Syndrome: NMS) ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการ เช่น มีไข้ กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง วิงเวียนศีรษะ ปวดหัวอย่างรุนแรง สับสน มีความผิดปกติทางความคิด หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นผิดปกติ และมีเหงื่อออกมาก เป็นต้น
  • มีปัญหาในการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย การทรงตัว การเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ หรือมีอาการแข็งเกร็ง
  • การมองเห็นผิดปกติ
  • มีปัญหาในการกลืน
  • รู้สึกง่วงมาก
  • เมื่อยล้า เวียนศีรษะ หรือหมดสติ
  • รู้สึกสับสน หรือกระสับกระส่าย
  • ในผู้หญิงอาจมีอาการประจำเดือนขาด มีสารคัดหลั่งทางหัวนม หรือเต้านมคัดตึง
  • หย่อนสมรรถภาพทางเพศ

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยบางคนอาจไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ เกิดขึ้นเลย แต่หากผู้ป่วยรายใดพบผลข้างเคียงหรือความผิดปกติอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ ควรรีบแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบด้วยเช่นเดียวกัน

ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับ :

  • Undecylenic Acid (อันดีไซลีนิก แอซิด)
  • กลุ่มอาการทูเร็ตต์ (Tourette Syndrome)
  • กลุ่มอาการเทอร์เนอร์ (Turner Syndrome)