Drug name: เตตราเบนาซีน
Description: Tetrabenazine (เตตราเบนาซีน) เป็นยาในกลุ่มโมโนเอมีน ดีพลีเตอร์ ออกฤทธิ์ช่วยลดสารสื่อประสาทในสมอง เช่น โดพามีน เซโรโทนิน และนอร์อิพิเนฟริน เป็นต้น ซึ่งสารเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการทำงานของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ โดยยานี้ช่วยให้การเคลื่อนไหวที่ผิดปกติอันเกิดจากโรคฮันติงตันลดน้อยลง และอาจช่วยให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ยา Tetrabenazine ทำได้เพียงบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่ไม่สามารถรักษาโรคดังกล่าวให้หายขาดได้ เกี่ยวกับยา Tetrabenazine คำเตือนในการใช้ยา Tetrabenazine ปริมาณการใช้ยา Tetrabenazine ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยา ดังนี้ การเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ ในรูปแบบท่าทางที่ผิดปกติ (Tardive Dyskinesia) ผู้ใหญ่ เริ่มรับประทานยาปริมาณ 12.5 มิลลิกรัม/วัน และค่อย ๆ เพิ่มปริมาณตามการตอบสนองต่อยา การเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ผู้ใหญ่ เริ่มรับประทานยาปริมาณ 12.5 มิลลิกรัม 2 ครั้ง/วัน แล้วค่อย ๆ เพิ่มปริมาณเป็น 12.5-25 มิลลิกรัม 3 ครั้ง/วัน โดยเพิ่มปริมาณยาสูงสุดไม่เกิน 200 มิลลิกรัม/วัน อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยรายใดรับประทานยาเป็นเวลา 1 สัปดาห์ที่ปริมาณยาสูงสุดแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ยานี้อาจใช้ไม่ได้ผลกับผู้ป่วยรายนั้น ผู้สูงอายุ เริ่มรับประทานยาปริมาณ 12.5 มิลลิกรัม แล้วค่อย ๆ เพิ่มปริมาณยาขึ้นเรื่อย ๆ การใช้ยา Tetrabenazine ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Tetrabenazine การใช้ยา Tetrabenazine อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น รู้สึกง่วง เวียนศีรษะ เหนื่อยล้าหรืออ่อนแรง คลื่นไส้ อาเจียน ไม่สบายท้องหรือท้องเสีย วิตกกังวล และมีสัญญาณของไข้หวัด เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ป่วยควรหยุดใช้ยาและไปพบแพทย์ทันทีหากเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง แม้อาจพบได้ยากก็ตาม ดังนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยบางคนอาจไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ เกิดขึ้นเลย แต่หากผู้ป่วยรายใดพบผลข้างเคียงหรือความผิดปกติอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ ควรรีบแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบด้วยเช่นเดียวกัน ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับ :เตตราเบนาซีน
กลุ่มยา
โมโนเอมีน ดีพลีเตอร์
ประเภทยา
ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ
ช่วยลดการเคลื่อนไหวผิดปกติที่เกิดจากโรคฮันติงตัน
กลุ่มผู้ป่วย
ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ
รูปแบบของยา
ยารับประทาน
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์
Category C จากการศึกษาในสัตว์พบว่า ทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์สัตว์
แต่ไม่มีการศึกษาในมนุษย์ หรือไม่มีข้อมูลเพียงพอในการศึกษาทดลองในมนุษย์และสัตว์
ควรใช้ยาเมื่อพิจารณาแล้วว่า มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อทารกในครรภ์
ตัวอย่างการใช้ยารักษาการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ ในรูปแบบท่าทางที่ผิดปกติในระดับปานกลางและรุนแรง
ตัวอย่างการใช้ยารักษาการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ