Drug name: บาริซิทินิบ-baricitinib

Description:

บาริซิทินิบ (Baricitinib)

บาริซิทินิบ (Baricitinib)

Share:

Baricitinib (บาริซิทินิบ) เป็นยารักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) ในผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาในกลุ่ม Tumor Necrosis Factor Inhibitor โดยตัวยาจะช่วยบรรเทาอาการปวด บวมหรือกดเจ็บตามข้อ นอกจากนี้ อาจใช้รักษาโรคอื่นตามดุลยพินิจของแพทย์

เกี่ยวกับยา Baricitinib

กลุ่มยา ยากลุ่มเจเอเคอินฮิบิเตอร์ (Janus Kinase Inhibitors: JAK)
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ รักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
กลุ่มผู้ป่วย ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ
รูปแบบของยา ยารับประทาน
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์และผู้ให้นมบุตร ในปัจจุบัน ยังไม่มีการจัดหมวดหมู่ของยาชนิดนี้จากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาหรือ FDA ซึ่งยาอาจส่งผลกระทบต่อมารดาหรือทารกในครรภ์ได้ อีกทั้งอาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์ในระหว่างการใช้ยาและในอนาคต ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา และผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการให้นมขณะใช้ยา เนื่องจากยาอาจปนเปื้อนในน้ำนมแม่ได้

คำเตือนในการใช้ยา Baricitinib

ข้อควรทราบก่อนการใช้ยา Baricitinib เพื่อความปลอดภัย 

  • แจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบหากมีอาการแพ้ยา Baricitinib ยาชนิดอื่น หรือมีอาการแพ้สารใด ๆ 
  • แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยา วิตามิน หรือสมุนไพรทุกชนิดที่ผู้ป่วยกำลังใช้อยู่ เช่น ยากดภูมิคุ้มกันหรือยารักษาโรคเก๊าท์ 
  • แจ้งให้แพทย์ทราบหากกำลังป่วยเป็นโรคไต โรคมะเร็ง ระดับคอเลสเตอรอลสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคถุงผนังลำไส้อักเสบ โรคทางระบบภูมิคุ้มกัน หรือสูบบุหรี่ เนื่องจากการใช้ยา Baricitinib อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดแผลในระบบทางเดินอาหาร เกิดลิ่มเลือด โรคมะเร็ง หัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง หรือภาวะติดเชื้อรุนแรงที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
  • ผู้ที่เคยป่วยเป็นวัณโรค โรคปอดเรื้อรัง โรคเบาหวาน โรคไวรัสตับอักเสบบีหรือซี มีแผลตามผิวหนัง หายใจลำบาก เจ็บขณะปัสสาวะหรือท้องเสีย มีภาวะติดเชื้อ เช่น มีไข้ ไอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หนาวสั่น ควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติทางการแพทย์ก่อนการใช้ยา 
  • หากต้องเข้ารับการผ่าตัดหรือการรักษาทางทันตกรรม ควรแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบก่อนว่ากำลังใช้ยา Baricitinib รวมถึงยา วิตามิน และอาหารเสริมอื่นที่ใช้ร่วมกัน
  • แจ้งให้แพทย์ทราบหากกำลังวางแผนตั้งครรภ์ สงสัยว่าตั้งครรภ์ หรืออยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์
  • ไม่ควรฉีดวัคซีนเชื้อเป็นในระหว่างการใช้ยา Baricitinib
  • การใช้ยา Baricitinib อาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อ และผู้ที่เพิ่งฉีดวัคซีน 
  • ในระหว่างใช้ยา Baricitinib ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ปริมาณการใช้ยา Baricitinib

ตัวอย่างการใช้ยา Baricitinib รักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ในผู้ใหญ่ ที่อาการรุนแรงปานกลางหรือรุนแรงมาก แพทย์จะให้รับประทานยาในปริมาณ 4 มิลลิกรัม 1 ครั้ง/วัน ร่วมกับยาเมโธเทรกเซท (Methotrexate) หรือยากลุ่ม Disease Modifying Anti-Rheumatic Drugs (DMARDs) ชนิดอื่นตามคำสั่งแพทย์ 

หากอาการของผู้ป่วยคงที่แล้ว แพทย์อาจลดปริมาณยาลงเป็น 2 มิลลิกรัม 1 ครั้ง/วัน ในกรณีที่ผู้ป่วยติดเชื้อซ้ำหรือติดเชื้อเรื้อรัง และผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 75 ปี แแพทย์จะให้รับประทานยาในปริมาณ 2 มิลลิกรัม 1 ครั้ง/วัน

การใช้ยา Baricitinib

วิธีการใช้ยา Baricitinib อย่างปลอดภัยมีดังนี้

  • ใช้ยาตามฉลากและตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ห้ามใช้ยานี้ในปริมาณมากกว่า น้อยกว่า หรือติดต่อกันนานกว่าที่แพทย์แนะนำ ห้ามเริ่มหรือหยุดการใช้ยาด้วยตนเอง หากมีข้อสงสัยใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานยา
  • รับประทานยา Baricitinib พร้อมอาหารหรือไม่พร้อมอาหารก็ได้ หากไม่สามารถกลืนยาได้ ให้ละลายยากับน้ำเปล่า 2 ช้อนชาและดื่มให้หมดทันที จากนั้นเติมน้ำประมาณ 10 มิลลิลิตรในแก้วที่ใช้ละลายยา คนเล็กน้อยและดื่มตามให้หมด
  • ในระหว่างการใช้ยา Baricitinib ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจร่างกายตามนัดหมายอย่างเคร่งครัด เนื่องจากแพทย์จะต้องตรวจหาการติดเชื้อวัณโรค เชื้อไวรัสตับอักเสบ ตรวจดูการทำงานของตับหรือไต และตรวจเลือดอย่างสม่ำเสมอ
  • หากผู้ป่วยลืมรับประทานยา ให้รับประทานทันทีที่นึกขึ้นได้ หากใกล้ถึงช่วงเวลาของยารอบถัดไป ให้ข้ามไปรับประทานยาตามเวลาปกติ ห้ามเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า 
  • ห้ามใช้ยา Baricitinib ร่วมกับผู้อื่น เพราะปริมาณยาที่เหมาะสมในแต่ละรายจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับอาการ การตอบสนองของร่างกาย และยาชนิดอื่น ๆ ที่กำลังใช้อยู่
  • เก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากความชื้น ความร้อน และแสงแดด โดยเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
  • แจ้งให้แพทย์ทราบหากอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงในระหว่างใช้ยา และหากผู้ป่วยใช้ยา Baricitinib เกินขนาดแล้วมีอาการหายใจลำบากหรือหมดสติ ควรนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Baricitinib  

ยา Baricitinib อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงทั่วไป เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ไขมันในเลือดสูง มีอาการของโรคเริมหรือโรคหวัด 

ผลข้างเคียงรุนแรงอื่น ๆ ที่อาจพบได้ เช่น เหงื่อออกมากในตอนกลางคืน ไออย่างรุนแรง มีไข้ หายใจลำบากหรือเป็นเสียงหวัด ลำไส้ทำงานผิดปกติ ท้องเสีย น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ล้า และคลำเจอก้อนที่คำ รักแร้หรือเชิงกราน หากอาการเหล่านี้ไม่หายไปหรือทวีความรุนแรงขึ้นควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที 

อย่างไรก็ตาม ควรหยุดใช้ยา Baricitinib แล้วไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุดหากพบอาการต่อไปนี้  

  • มีสัญญาณของการแพ้ยา เช่น ผื่นคัน ลมพิษ หายใจลำบาก เวียนศีรษะอย่างรุนแรง มีอาการบวมหรือคันบริเวณใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น และลำคอ
  • คลื่นไส้หรืออาเจียนอย่างรุนแรง 
  • มีอาการของภาวะโลหิตจาง ซึ่งจะเห็นได้จากอาการผิวซีด ใจเต้นเร็วหรืออ่อนล้าผิดปกติ
  • มีอาการของโรคตับ เช่น เบื่ออาหาร เกิดภาวะดีซ่าน คลื่นไส้หรืออาเจียนอย่างต่อเนื่อง ปวดท้อง หรือปัสสาวะเป็นสีเข้ม
  • มีอาการของหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดในสมอง หรือลิ่มเลือดอุดตันอย่างรุนแรง เช่น เจ็บหน้าอกลุกลามไปยังคอและแขน หายใจไม่อิ่ม เหงื่อออกมาก ร่างกายอ่อนแรงครึ่งซีก พูดไม่ชัดลิ้นแข็ง เวียนศีรษะอย่างรุนแรง ขาหรือแขนบวมและปวดในระหว่างการใช้ยา 
  • มีอาการของโรคงูสวัด โดยพบผื่นแดงเป็นหย่อม ๆ ที่ซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย รู้สึกแสบร้อนและชาตามผิวหนัง มีอาการคล้ายจะเป็นไข้ 
  • วิงเวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลม หมดสติ