Drug name: ไกลเมพิไรด์-glimepiride
Description: Glimepiride (ไกลเมพิไรด์) เป็นยาที่ใช้รักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภทที่ 2 โดยยาจะออกฤทธิ์กระตุ้นการหลั่งอินซูลินของร่างกายเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ในการใช้ยานี้ แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ในบางกรณีอาจใช้ร่วมกับยารักษาโรคเบาหวานชนิดอื่นร่วมด้วย นอกจากนี้ ยังอาจใช้ยานี้เพื่อจุดประสงค์อื่นตามดุลยพินิจของแพทย์ เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา ผู้ป่วยควรระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้ ในการใช้ยา Glimepiride เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภทที่ 2 แพทย์จะพิจารณาจากระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วย โดยในช่วงเริ่มต้น แพทย์จะให้ผู้ป่วยรับประทานยาครั้งละ 1 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง และค่อย ๆ เพิ่มปริมาณยาตามการตอบสนองของยาของผู้ป่วยในช่วง 1–2 สัปดาห์ของการรักษา โดยส่วนใหญ่ แพทย์จะเพิ่มปริมาณยาให้อยู่ที่ประมาณ 4 มิลลิกรัม หรืออาจมากกว่านั้นในบางกรณี แต่แพทย์จะกำหนดปริมาณยาสูงสุดที่ไม่เกิน 6 มิลลิกรัมต่อวัน ผู้ที่ใช้ยา Glimepiride ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยแพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยควบคุมอาหาร ควบคุมน้ำหนักตัว และออกกำลังกายร่วมด้วยเพื่อผลการรักษาที่ดีขึ้น รวมถึงผู้ป่วยไม่ควรหยุดรับประทานยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน เนื่องจากการรับประทานยานี้ให้เห็นผลต้องรับประทานอย่างต่อเนื่อง ในการรับประทานยา ผู้ป่วยควรรับประทานยาก่อนอาหารมื้อแรกของวันและควรรับประทานอาหารตามทันที หากลืมรับประทานยาให้รีบรับประทานยาทันที แต่หากใกล้ถึงเวลาในรอบถัดไป ให้ข้ามไปรับประทานยาในรอบถัดไปโดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณยาเป็นสองเท่า และแจ้งให้แพทย์ทราบหากลืมรับประทานยาบ่อย ๆ ในระหว่างที่ใช้ยานี้ แพทย์อาจนัดผู้ป่วยเป็นระยะเพื่อตรวจดูระดับน้ำตาลในเลือด และการตอบสนองต่อยา ซึ่งผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง ในบางกรณี ยา Glimepiride อาจส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) ส่งผลให้พบอาการผิดปกติบางอย่าง เช่น เหงื่อออกมาผิดปกติ ตัวสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ อยากอาหาร มองไม่ชัด เวียนศีรษะ หรือรู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มบริเวณมือและฝ่าเท้า ในเบื้องต้น ให้ผู้ป่วยรับประทานน้ำหวานหรือน้ำตาลปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ หรือน้ำหวานครึ่งแก้ว และวัดระดับน้ำตาลในเลือดอีกครั้งหลังจากผ่านไป 15 นาที หากระดับน้ำตาลในเลือดยังต่ำกว่า 70 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ให้ปฏิบัติตามวิธีในข้างต้นซ้ำอีกครั้ง หากอาการยังไม่ดีขึ้นหลังจากปฏิบัติตามวิธีในข้างต้นครบ 2 ครั้ง ให้ไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและการรักษาที่เหมาะสม สำหรับการเก็บรักษายา ผู้ป่วยควรเก็บยาไว้ในอุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงความร้อนและความชื้น เก็บให้พ้นมือเด็ก และห้ามรับประทานยาหากยาหมดอายุ การใช้ยา Glimepiride อาจส่งผลข้างเคียงบางอย่างได้ อาการที่พบได้บ่อย เช่น ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ ปวดท้อง ท้องเสีย ผู้ป่วยควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากใช้ยานี้แล้วพบอาการในลักษณะข้างต้นและอาการไม่ดีขึ้น มีความรุนแรงขึ้น หรือพบสัญญาณของภาวะน้ำตาลในเลือดสูง (Hyperglycemia) เช่น กระหายน้ำผิดปกติ ปัสสาวะมากผิดปกติ สับสน ง่วงซึม หน้าแดง หายใจถี่ หรือลมหายใจมีกลิ่นคล้ายผลไม้ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรหยุดใช้ยา Glimepiride และไปพบแพทย์ทันที หากพบอาการที่รุนแรงหลังการใช้ยา เช่นไกลเมพิไรด์ (Glimepiride)
เกี่ยวกับยา Glimepiride
กลุ่มยา
กลุ่มยาซัลโฟนิลยูเรีย (Sulfonylureas)
ประเภทยา
ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
กลุ่มผู้ป่วย
ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
รูปแบบของยา
ยารับประทาน
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์และผู้ให้นมบุตร
Category C จากการศึกษาในสัตว์พบว่า ทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์สัตว์ แต่ไม่มีการศึกษาในมนุษย์ หรือไม่มีข้อมูลเพียงพอในการศึกษาทดลองในมนุษย์และสัตว์ ควรใช้ยาเมื่อพิจารณาแล้วว่า มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อทารกในครรภ์ ดังนั้น ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา Glimepiride
คำเตือนในการใช้ยา Glimepiride
ปริมาณการใช้ยา Glimepiride
การใช้ยา Glimepiride
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Glimepiride