Illness name: การรักษาอาการปวดหัว
Description: อาการปวดหัวมีทั้งแบบที่รักษาได้หายขาดและไม่หายขาด โดยรักษาตามสาเหตุเป็นหลัก จุดประสงค์ของการรักษาอาการปวดหัวจะมุ่งเน้นไปที่การบรรเทาอาการ ซึ่งแพทย์จำเป็นต้องค้นหาสาเหตุที่แท้จริงให้พบก่อนรักษา และต้องดูปัจจัยอื่นของผู้ป่วยประกอบด้วย เช่น อายุของผู้ป่วย สุขภาพโดยรวมและประวัติทางการแพทย์ ระยะเวลาและความรุนแรงของอาการปวดหัว การตอบสนองต่อการรักษา หรือความต้องการของผู้ป่วย ในกรณีที่อาการปวดเป็นการปวดหัวทั่วไป ไม่ร้ายแรง สามารถดูแลตนเองได้ที่บ้านด้วยการปฏิบัติตนตามคำแนะนำดังนี้ หากการปฏิบัติตนในเบื้องต้นแล้วยังไม่ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวที่เกิดขึ้นได้ แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาตามดุลพินิจว่าควรรักษาด้วยวิธีใดที่เหมาะสมกับผู้ป่วย โดยแบ่งตามประเภทของอาการปวดหัวตามสาเหตุเป็นหลัก ซึ่งอาการปวดหัวที่พบได้บ่อย ได้แก่ ปวดหัวไมเกรนหรือปวดไมเกรน อาการปวดไมเกรนบรรเทาให้ดีขึ้นได้ด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาด และรับประทานยาระงับปวดที่หาซื้อได้ทั่วไป เช่น ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) ยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือยาแอสไพริน (Aspirin) แต่ในบางรายที่ตัวยาเหล่านี้ไม่ช่วยบรรเทาอาการได้ เนื่องจากผู้ป่วยมีอาการปวดไมเกรนรุนแรงขึ้น แพทย์อาจจ่ายยาในกลุ่มอื่นทดแทนให้ เช่น กลุ่มยาระงับปวด (Narcotics/ Analgesics) ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non Steroidal Anti-Inflammatory Drugs: NSAIDs) ยาทริปแทน (Triptans) ยาเออร์กอต แอลคาลอยด์ (Ergot Alkaloids) ซึ่งต้องรับประทานในขณะที่เกิดอาการปวดหัวไมเกรน แต่ไม่ได้ช่วยลดอาการที่เกิดร่วมกับอาการปวดหัวไมเกรน แพทย์อาจจ่ายยาเพื่อช่วยลดอาการเหล่านั้นในบางราย เช่น ยาต้านการอาเจียน สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการปวดหัวไมเกรนบ่อย ๆ หรือเกิดอาการปวดหัวมากกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ แพทย์จะแนะนำให้รับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันอาการปวดหัวที่อาจเกิดขึ้นจนกระทบต่อชีวิตประจำวัน แต่ควรระมัดระวังการรับประทานยาในปริมาณมากและถี่เกินไปเพราะอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ ปวดหัวจากกล้ามเนื้อเกร็งตัวหรือจากความเครียด อาการปวดหัวประเภทนี้ ผู้ป่วยดูแลตนเองอยู่ที่บ้านได้หากอาการไม่รุนแรง โดยทั่วไปจะเป็นการนอนหลับพักผ่อนและดื่มน้ำให้เพียงพอ อาจนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณหลังคอ และสิ่งสำคัญที่สุด คือ การหลีกเลี่ยงความเครียดซึ่งเป็นสาเหตุหลัก แต่ในรายที่มีอาการปวดรุนแรง เรื้อรังต้องเข้ารับการทำกายภาพบำบัดหรือการแพทย์ทางเลือกอื่น ๆ เช่น การฝึกไบโอฟีดแบ็ค (Biofeedback) สำหรับบำบัดกล้ามเนื้อในผู้ป่วยที่มีปัญหาการเคลื่อนไหว เทคนิคในการลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ (Relaxation Training) การนั่งสมาธิ หรือการบัดบัดเพื่อลดความเครียดอื่นๆ นอกจากนี้ การใช้ยารักษาอาการปวดหัวจะเป็นยาในกลุ่มระงับอาการปวด (Analgesics) ยาต้านซึมเศร้า (Antidepressant Medications) ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non Steroidal Anti-Inflammatory Drugs: NSAIDs) ยาทริปแทน (Triptans) ยาบาร์บิทูเรต (Barbiturate) หรือยาเออร์กอต แอลคาลอยด์ (Ergot Alkaloids) ซึ่งเป็นยากลุ่มเดียวกับกลุ่มที่ใช้รักษาอาการปวดไมเกรนเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรสังเกตหาสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ เพราะอาจมีบางโรคหรือความผิดปกติอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดอาการ เช่น ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติบริเวณกระดูกต้นคออาจได้รับการจ่ายยาต้านอักเสบ (Anti-Inflammatory Medication) หรือผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของข้อต่อขากรรไกรอาจต้องใส่เครื่องมือทางการแพทย์ช่วยลดการขบและกระทบของฟัน เพื่อช่วยบรรเทาความตึงของกล้ามเนื้อ ปวดหัวคลัสเตอร์หรือปวดหัวเป็นชุด ๆ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มีอาการปวดหัวคลัสเตอร์ควรเข้ารับการรักษาจากแพทย์ โดยรับประทานยากลุ่มทริปแทน (Triptan Drugs) ยาระงับอาการทางจิต (Antipsychotic Drugs) ยาแคลเซียม แชนแนลบล็อกเกอร์ (Calcium Channel Blocker) ยาต้านชัก (Anticonvulsant) เพื่อช่วยลดอาการปวดหัวอย่างรุนแรง หรืออาจมีการบําบัดด้วยออกซิเจน (Oxygen Therapy) เป็นครั้งคราวควบคู่กับการรับประทานยาทริปแทน แต่ในกรณีที่อาการรุนแรงมากอาจต้องใช้เครื่องกระตุ้นเส้นประสาทต้นคอที่ส่งสัญญาณไปยังสมอง หรือเป็นการผ่าตัดเอาเส้นประสาทบริเวณใบหน้าบางส่วนออก เพื่อลดอาการปวด
การรักษาอาการ ปวดหัว