Illness name: หัวโน
Description: หัวโน (Minor Head Injury หรือ Bump on Head) เกิดจากการได้รับบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุที่ศีรษะถูกกระแทกไม่นักรุนแรง แต่ก็ทำให้ศีรษะบริเวณนั้น ๆ ปูดนูนขึ้นมาหรือมีอาการเจ็บในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ มักไม่ก่อให้เกิดความเสียหายในระยะยาวต่อสมองแต่อย่างใด โดยส่วนมากเกิดจากการหกล้ม หรืออุบัติเหตุไม่ร้ายแรง โดยเฉพาะเด็กเล็กที่เล่นซนและมักได้รับการกระแทกหรือชนที่ศีรษะได้ง่าย อาการของหัวโน การได้รับอุบัติเหตุเล็กน้อยบริเวณศีรษะมักเป็นสาเหตุของอาการหัวโน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายร้ายแรงแต่อย่างใด หากผู้ได้รับบาดเจ็บยังรู้สึกตัวและไม่มีบาดแผลลึก อาจมีเพียงอาการจากการถูกชนหรือกระแทกที่เกิดขึ้นในช่วงระยะสั้น ๆ ดังนี้
เนื่องจากใต้ผิวหนังบริเวณหน้าผากและศีรษะมีเลือดมาหล่อเลี้ยงเป็นจำนวนมาก เมื่อได้รับบาดเจ็บในบริเวณนี้จึงมักส่งผลให้มีเลือดออกภายใต้ผิวหนัง การมีเลือดออกเพียงจุดเดียวทำให้เกิดการฟกช้ำและบวมขึ้นมา แม้จะเป็นอุบัติเหตุโดนกระแทกเล็ก ๆ ที่ไม่รุนแรงก็สามารถทำให้เกิดรอยบวมขนาดใหญ่ได้เช่นกัน ส่วนความรุนแรงของอาการบาดเจ็บขึ้นอยู่กับพื้นผิวที่ศีรษะกระแทกหรือชนแต่ละครั้ง เช่น พื้นปูน หรือพื้นผิวที่แข็ง ความเร็วของการชน รวมถึงขนาดตัวของผู้ได้รับบาดเจ็บ การวินิจฉัยอาการหัวโน สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะจนมีปุ่มนูนขึ้นมาหรือหัวโนนั้น แพทย์จะตรวจดูว่าสมองได้รับการกระทบกระเทือนหรือไม่เป็นอันดับแรก โดยเฉพาะในเด็ก ที่แม้จะเป็นอุบัติเหตุเล็กน้อย แต่มีโอกาสที่เหตุการณ์ดังกล่าวจะนำไปสู่อาการอ่อนเพลียและปวดหัวเป็นเวลานานหลายวันได้ และหากรุนแรงกว่านี้อาจทำให้เด็กมีปัญหาด้านการนอน นอนไม่หลับ รวมถึงปัญหาด้านพฤติกรรมซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสมาธิและการจดจ่อในการเรียน หลังจากการสอบถามถึงอาการมึนงงหรือภาวะหมดสติที่เกิดขึ้นหลังจากได้รับบาดเจ็บแล้ว แพทย์จะให้ทำแบบทดสอบการมองเห็น การได้ยิน ตรวจระบบประสาทเพื่อดูการตอบสนองและการทรงตัวของร่างกายว่าเป็นปกติดีหรือไม่ หากผู้ป่วยมีประวัติเคยได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะหรือผลการทดสอบชี้ถึงความเป็นไปได้ที่จะบาดเจ็บรุนแรง แพทย์อาจส่งตรวจสมองด้วยเครื่องสแกนคอมพิวเตอร์ (CT Scan) เพื่อดูว่าผู้ป่วยมีเลือดออกในสมองหรือไม่ การรักษาอาการหัวโน หากได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะเพียงเล็กน้อยมักพักฟื้นอยู่ที่บ้านตามปกติ ส่วนผู้ที่จำเป็นต้องรับการตรวจที่โรงพยาบาล หากไม่พบอาการบาดเจ็บรุนแรง แพทย์มักอนุญาตให้กลับบ้านได้ในเวลาไม่นานและใช้เวลาเพียง 2-3 วันเพื่อฟื้นตัวจนหายดี ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังการได้รับบาดเจ็บ ผู้ป่วยควรมีญาติคอยเฝ้าดูเผื่อมีสัญญาณหรืออาการอื่น ๆ เพิ่มเติม คำแนะนำสำหรับผู้ใหญ่
การเกิดอุบัติเหตุกระทบศีรษะอย่างไม่รุนแรงในเด็กเล็กจนหัวโนขึ้นมานั้นพบได้บ่อย โดยเฉพาะในเด็กที่กำลังเริ่มเรียนรู้เพื่อเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ ด้วยตนเอง มักเป็นผลจากการที่หนังศีรษะของเด็กนั้นยังบางและอยู่ใกล้กระโหลกศีรษะมาก พ่อแม่มักเป็นกังวลต่อบริเวณหน้าผากที่นูนขึ้นมา แต่หัวโนไม่ใช่การบาดเจ็บที่ร้ายแรงแต่อย่างใด เด็กอาจร้องไห้ออกมาเพราะรู้สึกเจ็บ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ผู้ปกครองควรให้เด็กนั่งพักแล้วปลอบให้ผ่อนคลายจากความเจ็บปวด ขณะเดียวกันอาจใช้ผ้าบาง ๆ ห่อน้ำแข็งประคบเย็นบริเวณที่หัวโนครั้งละประมาณ 2-5 นาที สลับกับการพักคลายความเย็นเรื่อย ๆ นาน 1 ชั่วโมง เพื่อให้ศีรษะที่นูนยุบลง ระหว่างนี้พ่อแม่อาจให้ลูกดื่มนม รับประทานอาหาร หรือชี้ชวนให้ดูหนังสือภาพต่าง ๆ เพื่อเบนความสนใจจากความรู้สึกเจ็บในช่วงแรก แต่หากเด็กยังคงแสดงอาการเจ็บปวดหรือไม่หยุดร้องไห้ ผู้ปกครองควรพาไปพบแพทย์หรือสอบถามปริมาณการรับประทานยาบรรเทาอาการปวดที่เหมาะสม หากไม่ใช่เด็กเล็กมีวิธีดูแลและบรรเทาอาการหัวโนเพิ่มเติมคล้ายคลึงกับในผู้ใหญ่ ดังนี้
การป้องกันไม่ให้ศีรษะได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาได้ แต่การใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาทนับเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุต่าง ๆ ได้
ความหมาย หัวโน
ทั้งนี้ หากบุตรหลานหรือบุคคลใกล้ตัวได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรมีคนคอยเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิดในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพื่อสังเกตอาการที่อาจปรากฏเพิ่มเติมหรือรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ส่วนตัวผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับบาดเจ็บ ควรขอให้คนใกล้ชิดช่วยจับตาดูอาการในช่วง 24 ชั่วโมงนั้น และหากพบว่าอาการที่เกิดขึ้นแย่ลงมากหรือมีอาการใด ๆ ต่อไปนี้เกิดขึ้นหลังได้รับอุบัติเหตุที่ศีรษะ ควรรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดทันที
หากคนใกล้ชิดสังเกตว่ามีอาการใด ๆ ข้างต้นควรรีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะอาการหมดสติที่แม้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ก็ตาม นอกจากนี้ ผู้ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะควรไปรับการตรวจที่โรงพยาบาลเช่นกันในกรณีต่อไปนี้
สาเหตุของอาการหัวโน
คำแนะนำสำหรับเด็ก
การป้องกันอาการหัวโน