Illness name: ภาวะความดันเลือดปอดสูง
Description: Pulmonary Hypertension หรือภาวะความดันเลือดปอดสูง คือภาวะที่ความดันเฉลี่ยหลอดเลือดแดงปอด (Mean Pulmonary Arterial Pressure) มีค่าสูงกว่า 25 มิลลิเมตรปรอทในขณะพัก หัวใจห้องขวาและปอดจึงต้องทำงานหนักขึ้น หากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้ผู้ป่วยเกิดอันตรายร้ายแรงถึงแก่ชีวิตได้ Pulmonary Hypertension อาจเป็นผลมาจากกรรมพันธุ์หรือโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจและโรคปอด โดยแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามสาเหตุของโรค โดย Pulmonary Hypertension บางประเภทมักไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การดูแลรักษาอย่างเหมาะสมจะช่วยให้อาการดีขึ้นและชะลอความรุนแรงของโรค ในระยะแรก ผู้ป่วย Pulmonary Hypertension อาจยังไม่แสดงอาการใด ๆ จนเมื่อระยะเวลาผ่านไปหลายเดือนหรือหลายปี ในช่วงแรกผู้ป่วยมักมีอาการหายใจหอบเหนื่อยขณะออกแรง อ่อนเพลีย หน้ามืด และวูบหมดสติ เมื่ออาการเริ่มรุนแรงขึ้นอาจรู้สึกเจ็บหน้าอก ขาและข้อเท้าบวมจากการคั่งของของเหลว และริมฝีปากและผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ เมื่อระยะเวลาผ่านไปอาการจะยิ่งรุนแรงขึ้น ผู้ป่วยอาจหายใจลำบากในขณะพัก และมีอาการท้องมาน (Ascites) ซึ่งเป็นภาวะที่มีของเหลวสะสมที่บริเวณช่องท้อง ผู้ป่วยบางคนอาจมีอาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ หัวใจหยุดทำงานกะทันหันจากภาวะหัวใจห้องล่างเต้นผิดจังหวะ และอาการไอเป็นเลือด ซึ่งเกิดจากหลอดเลือดฝอยในปอดแตก อาการของ Pulmonary Hypertension แบ่งเป็น 4 ระดับตามความรุนแรงของโรค ดังนี้ โดยปกติแล้ว หัวใจห้องขวาจะรับเลือดดำที่ร่างกายใช้แล้วส่งไปฟอกที่ปอด และเลือดแดงที่ผ่านการฟอกจากปอดจะเข้าสู่หัวใจทางห้องซ้าย หัวใจก็จะสูบฉีดเลือดแดงเพื่อนำเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งการสูบฉีดเลือดของคนทั่วไปเลือดจะไหลเวียนได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ผนังหลอดเลือดแดงในปอด (Pulmonary Artery) ของผู้ป่วย Pulmonary Hypertension จะมีความต้านทานเพิ่มขึ้น ทำให้เลือดไหลเวียนได้ยากขึ้น ส่งผลให้หัวใจห้องขวาต้องทำงานหนักขึ้น การแลกเปลี่ยนออกซิเจนและสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายทำได้น้อยลง และอาจนำไปสู่หัวใจวายwww.pobpad.com/หัวใจวาย (Heart Failure) ได้ Pulmonary Hypertension แบ่งเป็น 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ สาเหตุของภาวะนี้อาจเกิดจากขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ (Idiopathic Pulmonary Arterial Hypertension) หรือเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น ความผิดปกติของหัวใจอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อหลอดเลือดแดงในปอดได้ ซึ่งอาจเกิดจากความผิดปกติของหัวใจที่ทำให้ความสามารถในการบีบตัวหรือคลายตัวของหัวใจห้องล่างซ้ายลดลง หรืออาจมีสาเหตุจากโรคลิ้นหัวใจทำงานผิดปกติ (Valvular Heart Disease) รวมถึงโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด โรคปอดอาจทำให้การแลกเปลี่ยนแก๊สในปอดมีความผิดปกติอย่างรุนแรงจนทำให้เกิดภาวะพร่องออกซิเจน ซึ่งจะกระตุ้นการหดตัวของหลอดเลือด โดยโรคปอดที่อาจทำให้เกิด Pulmonary Hypertension เช่น 4. ภาวะที่มีความดันหลอดเลือดแดงปอดสูงจากการเกิดลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดแดงปอดเรื้อรัง โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด (Pulmonary Embolism) หรือลิ่มเลือดอุดตันประเภทอื่นอาจขัดขวางการไหลเลียนของเลือดหรือทำให้หลอดเลือดตีบแคบลง Pulmonary Hypertension กลุ่มนี้มีโอกาสรักษาให้หายหรือดีขึ้นได้หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ 5. ภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูงจากสาเหตุอื่น โรคและความผิดปกติอื่นที่ทำให้เกิดภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง แต่ไม่สามารถจัดให้อยู่ใน 4 กลุ่มที่กล่าวมาได้ จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มนี้ เช่น Pulmonary Hypertension พบบ่อยในเพศหญิง สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยมีแนวโน้มเกิดโรคได้มากขึ้นตามอายุ แต่จะพบมากในผู้ที่มีอายุระหว่าง 30–60 ปี และผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น มีภาวะน้ำหนักเกิน การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด อยู่อาศัยบนภูเขาหรือพื้นที่สูง และคนในครอบครัวมีประวัติเป็น Pulmonary Hypertension และโรคลิ่มเลือดอุดตันในปอด รวมถึงพฤติกรรมบางอย่างอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคนี้ได้เหมือนกัน เช่น การสูดดมหรือสัมผัสแร่ใยหิน ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ และการใช้ยาลดน้ำหนัก สารเสพติด หรือยาต้านเศร้าเอสเอสอาร์ไอ (SSRI) เพื่อรักษาโรควิตกกังวลและซึมเศร้า Pulmonary Hypertension มักตรวจไม่พบในระยะแรก และอาจวินิจฉัยได้ยากเนื่องจากผู้ป่วยมักมีอาการคล้ายอาการที่เกิดจากโรคหัวใจและปอด การวินิจฉัยจะเริ่มจากการสอบถามอาการ ประวัติสุขภาพของผู้ป่วย และคนในครอบครัว เช่น โรคหัวใจ โรคระบบทางเดินหายใจและปอด โรคภูมิคุ้มกัน และการใช้ยา จากนั้นจะมีการตรวจร่างกายและตรวจเพิ่มเติมเพื่อวินิจฉัยการทำงานของปอดและหัวใจ เช่น การเอกซเรย์ทรวงอก การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Echocardiogram) การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiography) และการตรวจสวนหัวใจห้องขวา หากพบว่าผู้ป่วยมีอาการของ Pulmonary Hypertension แพทย์อาจตรวจด้วยวิธีอื่นตามปัจจัยเสี่ยงของแต่ละคน เพื่อระบุสาเหตุของโรคที่แน่ชัด เช่น การตรวจเลือด CT Scan หรือ MRI บริเวณทรวงอก การตรวจสมรรถภาพปอด (Pulmonary Function Test) การตรวจความสัมพันธ์ระหว่างการหายใจกับเลือดที่ไปเลี้ยงที่ปอด (Ventilation Perfusion Scan) และการตรวจการนอนหลับ (Polysomnography) หากในครอบครัวของผู้ป่วยมีประวัติของ Pulmonary Hypertension แพทย์อาจให้ผู้ป่วยรับการตรวจทางพันธุกรรม (Genetic Testing) และเมื่อผลตรวจเป็นบวก คนในครอบครัวคนอื่น ๆ ก็ควรเข้ารับการตรวจทางพันธุกรรมเช่นกัน ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษา Pulmonary Hypertension ให้หายขาดได้ แต่การรักษาจะช่วยชะลอความรุนแรงของโรคและช่วยให้อาการดีขึ้น ผู้ป่วยจึงต้องได้รับการรักษาต่อเนื่องในระยะยาว โดยวิธีที่ใช้ในการรักษาจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค ได้แก่ การดูแลตัวเองของผู้ป่วยจะช่วยให้อาการของโรคดีขึ้น โดยการปรับพฤติกรรมต่าง ๆ ดังนี้ ยาที่ใช้ในการรักษา Pulmonary Hypertension มีหลายชนิด ได้แก่ หากอาการของผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการดูแลตนเองและการใช้ยารักษา แพทย์อาจให้ผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัด เช่น การผ่าตัดผนังกั้นห้องหัวใจห้องบน (Atrial Septostomy) เป็นการผ่าตัดเปิดผนังกั้นห้องหัวใจระหว่างห้องด้านบนซ้ายและขวา เพื่อลดแรงกดที่ด้านขวาของหัวใจ หรือการผ่าตัดนำลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดแดงปอดออก (Pulmonary Thromboendarterectomy) เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น นอกจากนี้ อาจรักษาด้วยการปลูกถ่ายปอด (Lung Transplantation) หรือการเปลี่ยนถ่ายปอดและหัวใจ (Heart-Lung Transplantation) สำหรับผู้ป่วยอายุน้อยที่มีภาวะ Pulmonary Hypertension โดยไม่ทราบสาเหตุ ภาวะแทรกซ้อนของ Pulmonary Hypertension ที่อาจพบได้ เช่น เนื่องจาก Pulmonary Hypertension เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทำให้ยากต่อการป้องกัน ในเบื้องต้นสามารถลดความเสี่ยงของโรคได้โดยการปรับพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อโรค เช่น ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ไม่ใช้สารเสพติด และหลีกเลี่ยงการสูดดมหรือสัมผัสแร่ใยหิน หากไม่สามารถทำได้ควรสวมหน้ากากอนามัยหรืออุปกรณ์ป้องกันความหมาย ภาวะความดันเลือดปอดสูง (Pulmonary Hypertension)
อาการของ Pulmonary Hypertension
สาเหตุของ Pulmonary Hypertension
1. ภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูง (Pulmonary Arterial Hypertension หรือ PAH)
2. ภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูงที่เกิดร่วมกับความผิดปกติของหัวใจด้านซ้าย
3. ภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูงเกิดร่วมกับโรคปอดและภาวะพร่องออกซิเจน (Hypoxia)
การวินิจฉัย Pulmonary Hypertension
การรักษา Pulmonary Hypertension
การดูแลตัวเอง
การใช้ยา
การผ่าตัด
ภาวะแทรกซ้อนของ Pulmonary Hypertension
การป้องกัน Pulmonary Hypertension