Illness name: เชื้อราที่เล็บ
Description: เชื้อราที่เล็บ (Fungal Nail Infection) เป็นโรคที่พบเห็นได้ทั่วไปและติดต่อได้ผ่านการสัมผัส เกิดจากการเจริญเติบโตของเชื้อราที่เล็บ โดยสามารถเกิดได้ทั้งในเล็บมือและเล็บเท้า แต่ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นที่เล็บเท้า เนื่องจากความอบอุ่นและความชื้นจากการใส่รองเท้าเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เชื้อราก่อตัวขึ้น อีกทั้งบริเวณนิ้วเท้ามีการหมุนเวียนของเลือดน้อยกว่าบริเวณนิ้วมือ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่เดินทางมากับเลือดตรวจจับและกำจัดเชื้อโรคได้ยาก อาการบ่งชี้ในขั้นแรก คือพบจุดสีขาวหรือสีเหลืองบริเวณปลายเล็บ และหากเชื้อราเริ่มขยายตัว อาจทำให้เล็บหนาขึ้น เล็บเปลี่ยนสี เกิดขุยหนาใต้เล็บ เล็บแยกตัวออกจากฐานเล็บ ซึ่งอาจสังเกตเห็นเป็นโพรงหรือช่องว่างใต้เล็บ อาการของเชื้อราที่เล็บ ในระยะแรก อาจไม่สามารถสังเกตได้ถึงอาการป่วยหรือความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเล็บ ทั้งนี้ ความผิดปกติจะเริ่มแสดงออกมาเมื่อเชื้อราเริ่มขยายตัว โดยเกิดจากขอบเล็บแล้วค่อย ๆ ขยายไปยังกลางเล็บ ซึ่งอาจเกิดขึ้นที่เล็บมือหรือเล็บเท้า และมักมีเล็บที่ติดเชื้อราประมาณ 1-3 เล็บ โดยผู้ป่วยเชื้อราในเล็บมักจะมีอาการดังนี้ สาเหตุของเชื้อราที่เล็บ เชื้อราคือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาแสงแดด มักอาศัยอยู่ในบริเวณที่อุ่นและชื้น ด้วยขนาดที่เล็กมากทำให้มองเห็นด้วยตาเปล่าได้ยาก และจึงสามารถเข้าไปอาศัยในร่างกายได้ผ่านแผลขนาดเล็กหรือร่องระหว่างเล็บและเนื้อเยื่อรองเล็บ (Nail Bed) เชื้อราบางชนิดมีประโยชน์ แต่บางชนิดก็ก่อโทษแก่ร่างกาย เชื้อรากลุ่มหลักที่ทำให้เกิดโรคเชื้อราในเล็บได้แก่เชื้อราชนิด Dermatophyte เป็น เชื้อราที่เล็บมีโอกาสเกิดกับบุคคลทุกเพศ ทุกวัย โดยมีปัจจัยหรือพฤติกรรมบางอย่างที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเชื้อราที่เล็บได้ ดังนี้ การวินิจฉัยเชื้อราที่เล็บ เนื่องจากอาการบ่งชี้ถึงโรคเชื้อราที่เล็บ ไม่ว่าจะเป็นเล็บเปลี่ยนสี เล็บผิดรูป เล็บเปราะ หรือคันผิวหนังบริเวณเล็บ อาจมีสาเหตุมาจากโรคทางผิวหนังชนิดอื่น ดังนั้น หากพบว่าเล็บหรือผิวหนังมีความผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาทันที โดยแพทย์จะตรวจสอบเล็บที่ผิดปกติ และอาจขูดเศษเนื้อเยื่อใต้เล็บเพื่อนำไปตรวจสอบหาชนิดของเชื้อราเพื่อหาวิธีรักษาต่อไป การรักษาเชื้อราที่เล็บ โรคเชื้อราที่เล็บเป็นโรคที่ไม่เร่งด่วน หากมีอาการเพียงเล็กน้อย แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยรักษาด้วยตนเอง โดยเน้นเรื่องการรักษาความสะอาดของเล็บเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยเริ่มมีอาการอื่นร่วม เช่น บวม แดงบริเวณเล็บ เล็บผิดรูปมาก เดินลำบาก หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่เดิม เช่น โรคที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือด ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อป้องกันโรคลุกลาม การรักษาเชื้อราที่เล็บด้วยตนเอง การรักษาเชื้อราที่เล็บโดยแพทย์ แบ่งออกเป็น 3 วิธีหลัก ๆ ได้แก่ ทั้งนี้ ผู้ป่วยเชื้อราที่เล็บควรตระหนักไว้ว่า การรักษาเชื้อราต้องใช้ระยะเวลานานหลายเดือน และบางครั้งก็ไม่สามารถช่วยให้เชื้อราหายไปทั้งหมดหรือทำให้เล็บที่ผิดปกติกลับมามีลักษณะดังเดิมได้ อีกทั้งเชื้อรายังมีโอกาสกลับมาเกิดซ้ำ ดังนั้น การวินิจฉัยที่ถูกต้องจากการตรวจทางห้องปฏิบัติการ และการตรวจผลลัพธ์ก่อนหยุดรักษา จึงมีความจำเป็นอย่างมากในการรรักษาเชื้อราที่เล็บ ภาวะแทรกซ้อนของเชื้อราที่เล็บ ผู้ป่วยเชื้อราที่เล็บที่มีอาการรุนแรง แม้จะได้รับการรรักษาจนเชื้อราหมดไปแล้ว แต่มีความเป็นไปได้ที่เล็บอาจไม่กลับมาอยู่ในสภาพปกติ นอกจากนั้น ผู้ป่วยเชื้อราที่เล็บที่มีระบบภูมิคุ้มกันต่ำ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวาน ซึ่งโดยปกติจะการไหลเวียนเลือดและการรับรู้จากเส้นประสาทที่เท้ามักลดลง เชื้อราในเล็บเท้าอาจแพร่กระจายและก่อให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงบริเวณเท้าและอวัยวะอื่นได้ การป้องกันเชื้อราที่เล็บ โดยทั่วไปสามารถป้องกันการติดเชื้อราที่เล็บได้ จากการลดปัจจัยและพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดเชื้อราที่เล็บ ได้แก่ความหมาย เชื้อราที่เล็บ