Illness name: อีริทิมา มัลติฟอร์เม erythema multiforme
Description: Erythema Multiforme (อีริทิมา มัลติฟอร์เม) คือ โรคทางผิวหนังชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นรอยผื่นที่มีตุ่มตรงกลางและผื่นนูนเป็นวงกลมล้อมรอบคล้ายเป้ายิงธนู โดยอาจมีสาเหตุมาจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อการถูกกระตุ้นจากปัจจัยบางอย่างมากเกินไป เช่น การติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือการใช้ยาบางชนิด ผู้ที่มีอาการทางผิวหนังจาก Erythema Multiforme ส่วนใหญ่มักอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 20–40 ปี โดยแต่ละคนจะมีอาการความรุนแรงแตกต่างกันไป ซึ่งโดยส่วนมากมักไม่รุนแรงและหายได้เอง แต่ในบางกรณี รอยผื่นดังกล่าวและการติดเชื้ออาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายได้ โดยทั่วไปผู้ที่มีอาการทางผิวหนังจาก Erythema Multiforme มักไม่มีอาการใด ๆ นอกจากรอยผื่นสีแดงขนาดเล็ก ซึ่งมักเริ่มเกิดบริเวณมือและเท้า ก่อนจะแพร่กระจายไปตามแขน ขา และจะพบได้มากที่สุดบริเวณใบหน้า คอ และลำตัว โดยในบางกรณีอาจพบอาการคันเล็กน้อยและแสบร้อนร่วมด้วย นอกจากนี้อาจพบว่ารอยผื่นบางบริเวณมีลักษณะกระจุกตัวกันหรือเกาะรวมกันเป็นกลุ่ม เช่น บริเวณข้อศอก หรือหัวเข่า เป็นต้น หลังจากเกิดผื่นดังกล่าวประมาณ 3 วัน ผื่นจะเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นและแบ่งเป็นชั้นคล้ายเป้ายิงธนู โดยจะมีลักษณะเป็นรอยสีแดงคล้ำ ซึ่งอาจพุพองหรือตกสะเก็ด ล้อมรอบด้วยรอยสีชมพูและสีแดงที่แบ่งเป็นชั้นชัดเจน แต่ในบางกรณีอาจพบรอยผื่นมีลักษณะต่างไป เช่น มีขอบไม่ชัดเจน นอกจากนี้ ผื่นดังกล่าวอาจเกิดในบริเวณใกล้เคียงกันจนมีขนาดใหญ่กว่าปกติ และส่งผลให้รู้สึกเจ็บแสบ หรือปวดผิวหนังบริเวณรอบ ๆ ได้ ในกรณีรุนแรงอาจพบอาการต่าง ๆ อย่างไข้ขึ้น หนาวสั่น อ่อนเพลีย หรือปวดตามข้อ และพบรอยผื่นขึ้นที่เยื่อบุบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย อย่างริมฝีปาก ภายในช่องปาก ลิ้น เหงือก รอบดวงตา อวัยวะเพศ รูทวาร หลอดลม และทางเดินอาหาร โดยริมฝีปากและภายในช่องปากจะเป็นบริเวณที่พบได้บ่อย ซึ่งหากแผลพุพองบริเวณดังกล่าวแตก อาจส่งผลให้รู้สึกปวดบริเวณรอบ ๆ และกลืนอาหารลำบาก นอกจากนี้ผู้ที่มีอาการทางผิวหนังจาก Erythema Multiforme อาจมีปฏิกิริยาตอบสนองหรือเกิดรอยแผลจากการถูกกระตุ้นได้มากกว่าคนทั่วไป หากพบอาการข้างต้นควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาทันที เนื่องจากอาการดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่มีความรุนแรงได้ ในปัจจุบัน ทางการแพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดที่ส่งผลให้เกิดรอยผื่นลักษณะคล้ายเป้ายิงธนู หรือ Erythema Multiforme แต่มีความเป็นไปได้ว่าอาการดังกล่าวอาจเกิดขึ้นเมื่อเซลล์ผิวหนังถูกทำลายจากการตอบสนองที่มากเกินไปของระบบภูมิคุ้มกัน โดยมีปัจจัยบางอย่างเป็นตัวกระตุ้น เช่น นอกจากนี้ในบางกรณีที่พบได้น้อย Erythema Multiforme อาจถูกกระตุ้นจากการฉีดวัคซีนบางชนิด อย่างวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) และวัคซีนรวมคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน (Tdap) ในการวินิจฉัย Erythema Multiforme แพทย์จะตรวจดูผิวหนังบริเวณที่เกิดผื่นและสอบถามอาการความผิดปกติของผู้ป่วย จากนั้นแพทย์อาจตรวจด้วยวิธีอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น กระตุ้นให้ผิวหนังบริเวณที่เกิดผื่นเกิดการบาดเจ็บเล็กน้อยเพื่อดูการตอบสนองของร่างกาย (Koebner’s phenomenon) ตัดเนื้อเยื่อตัวอย่างไปตรวจ (Biopsy) หรือตรวจการติดเชื้อบางชนิดที่อาจเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้ป่วยเกิดโรค โดยทั่วไปอาการต่าง ๆ ของผู้ป่วย Erythema Multiforme มักค่อย ๆ ดีขึ้นและหายได้เองภายใน 2–3 สัปดาห์ แต่หากแพทย์วินิจฉัยว่าผู้ป่วยมีอาการรุนแรง แพทย์จะรักษาโดยการควบคุมปัจจัยที่อาจเป็นตัวกระตุ้น เช่น ผู้ป่วยบางคนอาจมีอาการอื่น ๆ อย่างอาการคัน ปวด หรือผิวหนังอักเสบ แพทย์จึงอาจรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ในกรณีรุนแรงแพทย์จะรักษาอาการหรือภาวะอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นร่วมด้วย เช่น ผู้ป่วยที่ระบบทางเดินหายใจผิดปกติ ภาวะบวมน้ำ (Edema) หรือภาวะขาดน้ำ (Dehydration) จากผื่นที่ขึ้นบริเวณหลอดลม หรือทางเดินอาหาร เป็นต้น ทั้งนี้ผู้ป่วยบางคนอาจเกิด Erythema Multiforme ซ้ำอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งแพทย์สันนิษฐานว่าอาการของผู้ป่วยอาจมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส และให้ผู้ป่วยรับประทานยาต้านไวรัส อย่างยาอะไซโคลเวียร์ ติดต่อกันประมาณ 6 เดือน หากผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษา แพทย์อาจเลือกยาต้านไวรัสชนิดอื่นแทน อย่างยาวาลาไซโคลเวียร์ (Valacyclovir) หรือยาแฟมไซโคลเวียร์ (Famciclovir) โดยทั่วไปอาการต่าง ๆ ของผู้ป่วย Erythema Multiforme มักหายได้เองโดยไม่ทิ้งรอยแผลเป็นหรือส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนใด ๆ แต่ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรง อาจพบภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดที่ส่งผลให้เกิด Erythema Multiforme การป้องกันจึงอาจทำได้ยาก แต่อาจลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจเป็นตัวกระตุ้น อย่างการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย เช่น นอกจากนี้ หากคนในครอบครัวมีประวัติการเกิด Erythema Multiforme ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้งก่อนเริ่มใช้ยาใด ๆ เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงต่อการถูกกระตุ้นให้เกิดโรคมากกว่าปกติความหมาย อีริทิมา มัลติฟอร์เม (Erythema Multiforme)
อาการของ Erythema Multiforme
สาเหตุของ Erythema Multiforme
การวินิจฉัย Erythema Multiforme
การรักษา Erythema Multiforme
ภาวะแทรกซ้อนของ Erythema Multiforme
การป้องกัน Erythema Multiforme