Illness name: necrotizing fasciitis โรคแบคทีเรียกินเนื้
Description: Necrotizing Fasciitis คือ โรคแบคทีเรียกินเนื้อหรือโรคเนื้อเน่า เป็นภาวะติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณเนื้อเยื่ออ่อนที่อาจส่งผลให้ผิวหนังและกล้ามเนื้อถูกทำลายได้ ผู้ป่วยอาจมีอาการร้อนบริเวณผิวหนัง ผิวเปลี่ยนเป็นสีแดง รู้สึกเจ็บปวดบริเวณแผลซึ่งจะรู้สึกปวดมากขึ้น โดยการติดเชื้ออาจลุกลามไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งอาจมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ มีไข้ คลื่นไส้ หรือท้องเสีย เป็นต้น แม้โรคนี้จะพบได้น้อย แต่อาจทำให้ป่วยรุนแรงจนเสียชีวิตได้ ผู้ป่วยจึงต้องไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที ระยะแรกหลังการติดเชื้อภายใน 1 วัน ผู้ป่วย Necrotizing Fasciitis อาจมีอาการเจ็บป่วยที่ไม่รุนแรง ดังนี้ หลังจากนั้น เมื่อติดเชื้อไปแล้ว 3-4 วัน ผู้ป่วยอาจมีอาการรุนแรงมากขึ้น เช่น บริเวณที่เกิดการติดเชื้ออาจมีอาการบวม มีผื่นสีม่วงขึ้น หรือมีตุ่มน้ำสีเข้มที่ส่งกลิ่นเหม็น ผิวหนังอาจเกิดการเปลี่ยนสี และเนื้อเยื่อที่ตายแล้วอาจหลุดลอกออก เป็นต้น และเมื่อการติดเชื้อเข้าสู่วันที่ 4-5 ผู้ป่วยอาจมีภาวะวิกฤติ ได้แก่ ความดันโลหิตต่ำ ช็อก หรือหมดสติได้ Necrotizing Fasciitis เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น สเตรปโตค็อคคัส กลุ่มเอ (Group A Streptococcus) คลอสตริเดียม (Clostridium) เคล็บเซลลา (Klebsiella) สแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส (Staphylococcus Aureus) อีโคไล (E. Coli) และแอโรโมแนส ไฮโดรฟิลา (Aeromonas Hydrophila) เป็นต้น ซึ่งเชื้ออาจปล่อยสารพิษทำลายเนื้อเยื่อผิวหนังและกล้ามเนื้อจนส่งผลให้เนื้อเยื่อตายได้ โดยเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทั้งทางผิวหนังหรือกระแสเลือดผ่านทางแผลถูกบาด แผลถลอก รอยข่วน แมลงกัดต่อย การใช้เข็มฉีดยา หรือแผลผ่าตัด โดยผู้ที่เสี่ยงต่อโรคนี้ ได้แก่ เนื่องจาก Necrotizing Fasciitis มีอาการแรกเริ่มที่คล้ายกับโรคอื่น ๆ เช่น โรคติดเชื้อทางผิวหนังที่ไม่รุนแรง ไข้หวัดใหญ่ หรืออาการแทรกซ้อนที่พบได้หลังผ่าตัด เป็นต้น จึงทำให้การวินิจฉัยโรคนี้มักทำได้ในระยะที่โรครุนแรงมากขึ้น โดยแพทย์อาจตรวจวินิจฉัยด้วยวิธีการ ดังนี้ นอกจากนี้ สมาชิกในครอบครัวหรือผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยควรเข้ารับการตรวจรักษาด้วยเช่นกัน หากมีอาการของภาวะติดเชื้อปรากฏขึ้น ผู้ป่วย Necrotizing Fasciitis อาจต้องได้รับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมตามระยะของโรค โดยมีวิธีการรักษา ดังนี้ ผู้ป่วยอาจต้องได้รับยาปฏิชีวนะ ซึ่งแพทย์มักให้ยาหลายชนิดร่วมกันทางหลอดเลือดดำ และยาควบคุมความดันโลหิต รวมทั้งสารภูมิคุ้มกันอิมมูโนโกลบูลินทางหลอดเลือดดำเพื่อช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับภาวะติดเชื้อ แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัดกำจัดเนื้อเยื่อที่เสียหายหรือตาย เพื่อหยุดการกระจายของเชื้อ รวมทั้งอาจต้องตัดแขนหรือขาในบางกรณีหากการติดเชื้อลุกลามหรือรุนแรง แพทย์อาจใช้ขั้นตอนอื่นเพื่อรักษาและติดตามอาการผู้ป่วย เช่น ในกรณีที่มีอาการรุนแรง ผู้ป่วยมักต้องเข้ารับการรักษาในห้องไอซียู ซึ่งอาจใช้เวลารักษาตัวนานหลายสัปดาห์ และอาจต้องแยกห้องรักษากับผู้ป่วยอื่น ๆ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ และหลังการรักษา ผู้ป่วยบางรายที่ต้องตัดเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อออกไปปริมาณมากหรือต้องตัดแขนขา อาจต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อตกแต่งบาดแผล หรือทำกายภาพบำบัดในรายที่พิการด้วย Necrotizing Fasciitis อาจทำให้ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงเสี่ยงติดเชื้อในกระแสเลือดหรืออวัยวะในร่างกายทำงานล้มเหลวจนอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่รอดชีวิตอาจมีแผลเป็นหรืออาจพิการแขนขาจากการรักษาได้เช่นกัน แม้ Necrotizing Fasciitis เป็นการเจ็บป่วยที่ไม่สามารถป้องกันได้ และยังไม่มีวัคซีนชนิดใดป้องกันการติดเชื้อนี้ แต่คนทั่วไปสามารถลดความเสี่ยงของโรคนี้ได้ เช่นความหมาย โรคแบคทีเรียกินเนื้อหรือโรคเนื้อเน่า (Necrotizing Fasciitis)
อาการของโรคแบคทีเรียกินเนื้อหรือโรคเนื้อเน่า
สาเหตุของโรคแบคทีเรียกินเนื้อหรือโรคเนื้อเน่า
การวินิจฉัยโรคแบคทีเรียกินเนื้อหรือโรคเนื้อเน่า
การรักษาโรคแบคทีเรียกินเนื้อหรือโรคเนื้อเน่า
การใช้ยา
การผ่าตัด
วิธีอื่น ๆ
ภาวะแทรกซ้อนของโรคแบคทีเรียกินเนื้อหรือโรคเนื้อเน่า
การป้องกันโรคแบคทีเรียกินเนื้อหรือโรคเนื้อเน่า