Illness name: เพ้อ
Description: เพ้อ (Delirium) คือภาวะความผิดปกติทางจิตที่ส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดอาการสับสนและสูญเสียการรับรู้ความเป็นจริงอย่างรุนแรง รวมทั้งมีระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลงไป ภาวะนี้จะเกิดขึ้นในทันที เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าภาวะสับสนเฉียบพลัน โดยอาจมีสาเหตุมาจากปัญหาสุขภาพ การเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ หรือเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด การรักษาภาวะเพ้อจะมุ่งไปที่การรักษาปัญหาสุขภาพที่เป็นต้นเหตุและการควบคุมอาการเพ้อไม่ให้แย่ลง อาการของภาวะเพ้อ ผู้ที่มีอาการเพ้อจะประสบสภาวะแปรปรวนทางสุขภาพจิต เช่น มีอาการเซื่องซึมสลับกับกระวนกระวาย เป็นต้น ผู้ป่วยอาจไม่รับรู้ความเป็นจริง มีปัญหาด้านความจำและการคิด รวมทั้งมีพฤติกรรมผิดแปลกไปจากเดิม โดยทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยจะมีอาการเพ้อในลักษณะใดลักษณะหนึ่งต่อไปนี้ หรืออาจมีอาการทั้ง 2 ลักษณะก็ได้ สาเหตุของภาวะเพ้อ ส่วนใหญ่แล้ว อาการเพ้อหรือภาวะสับสนเฉียบพลันนั้นเกิดขึ้นได้ทั้งจากปัญหาสุขภาพกายและสุขภาพจิต ซึ่งมีหลายโรคด้วยกัน เช่น โรคที่ทำให้สมองขาดออกซิเจนหรือโรคที่ส่งผลต่อระบบการทำงานของร่างกาย การติดเชื้อบางชนิด การมีระดับสารเคมีหรือเกลือแร่ในร่างกายไม่สมดุล การใช้ยารักษาโรคหรือการใช้สารเสพติด เป็นต้น นอกจากนี้ บุคคลบางกลุ่มจะเสี่ยงเกิดอาการเพ้อได้มากกว่าคนทั่วไป เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีปัญหาทางการมองเห็นหรือการได้ยิน ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหลายอย่าง เป็นต้น การวินิจฉัยภาวะเพ้อ การวินิจฉัยภาวะเพ้อทำได้ด้วยการตรวจดูว่าผู้ป่วยมีปัญหาเกี่ยวกับความจำ สมาธิ ความคิด และการรับรู้หรือไม่ ซึ่งประกอบด้วยการตรวจสภาพจิต การตรวจร่างกายและการทำงานของระบบประสาทในร่างกาย และการตรวจอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุของภาวะดังกล่าว แพทย์จะวินิจฉัยว่ามีอาการเพ้อหากผู้ป่วยไม่มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า มีปัญหาเกี่ยวกับการคิด และมีความคิดผิดแปลกไปจากเดิม การรักษาภาวะเพ้อ การรักษาภาวะเพ้อให้ได้ผลต้องเริ่มจากการวินิจฉัยสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าวหรือใช้ยาเพื่อช่วยให้อาการสงบลง จากนั้นจึงมุ่งเน้นการจัดการสภาพแวดล้อมเพื่อฟื้นฟูอาการป่วยทางกายควบคู่กับการฟื้นฟูความคิด ความจำ และการรับรู้ของผู้ป่วยให้กลับมาเป็นปกติ โดยผู้ป่วยอาจต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพื่อรับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ การดูแลเอาใจใส่จากสมาชิกในครอบครัวก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ภาวะแทรกซ้อนของภาวะเพ้อ ผู้ป่วยภาวะเพ้อมีโอกาสหายหรือฟื้นตัวได้ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับภาวะสุขภาพของผู้ป่วยเป็นปัจจัยสำคัญ เช่น ผู้ป่วยโรคร้ายแรงอย่างสมองเสื่อมอาจสูญเสียความจำและทักษะการคิด ในขณะที่ผู้มีสุขภาพดีมีแนวโน้มฟื้นตัวจากอาการเพ้อได้มากกว่า เป็นต้น ผู้ป่วยที่มีอาการเพ้อเนื่องจากเป็นโรคร้ายแรงจึงเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ โดยอาจส่งผลให้สุขภาพแย่ลงและต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด บางรายอาจได้รับผลข้างเคียงร้ายแรงจากการใช้ยาที่ทำให้เสี่ยงอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต การป้องกันภาวะเพ้อ วิธีป้องกันภาวะเพ้อที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือการเรียนรู้และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอาการเพ้อ ส่วนผู้ป่วยที่มีภาวะนี้อยู่แล้วนั้นควรเข้ารับการรักษาปัญหาสุขภาพที่เป็นต้นเหตุ และควรได้รับการดูแลจากคนในครอบครัวอย่างใกล้ชิด รวมทั้งจัดสภาพแวดล้อมให้น่าอยู่ วิธีเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นและป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ อาการของภาวะเพ้อ โดยทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยภาวะเพ้อจะมีอาการนาน 2-3 ชั่วโมง หรือ 2-3 วัน ซึ่งอาการจะแปรปรวนตลอดทั้งวัน และกำเริบหนักขึ้นเมื่อตกกลางคืนหรืออยู่ในสถานการณ์ที่ผู้ป่วยไม่คุ้นเคย อาการของภาวะเพ้อ มีดังนี้ สาเหตุของภาวะเพ้อ ภาวะเพ้อเกิดจากความผิดปกติในการรับส่งสัญญาณของสมอง ซึ่งอาจเป็นผลมาจากปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้สมองไม่ทำงานตามปกติ หรือบางกรณีอาจไม่สามารถระบุสาเหตุของอาการเพ้อ อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่อาจทำให้เกิดภาวะเพ้อได้ มีดังนี้ นอกจากนี้ ภาวะสุขภาพบางอย่างอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดอาการเพ้อได้ ดังนี้ การวินิจฉัยภาวะเพ้อ แพทย์จะวินิจฉัยภาวะเพ้อจากประวัติการรักษา ผลประเมินสุขภาพจิตของผู้ป่วย และปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจก่อให้เกิดอาการดังกล่าว โดยจะใช้วิธีการตรวจสภาพจิต การตรวจร่างกายและระบบประสาท และการตรวจอื่น ๆ มีรายละเอียดดังนี้ การรักษาภาวะเพ้อ การรักษาภาวะเพ้อมีจุดประสงค์เพื่อควบคุมอาการของโรคไม่ให้แย่ลง โดยเริ่มจากรักษาปัญหาสุขภาพที่เป็นสาเหตุของอาการดังกล่าว หลังจากนั้นการดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีอาการเพ้อจะแบ่งออกเป็น 4 วิธี ได้แก่ การรักษาแบบประคับประคอง การรักษาด้วยยา การจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม และการดูแลจากคนรอบข้าง การรักษาแบบประคับประคอง เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากอาการเพ้อ แพทย์จะให้การรักษาผู้ป่วย ดังนี้ การรักษาด้วยยา แพทย์จะสั่งจ่ายยารักษาโรคบางชนิดเพื่อบรรเทาอาการป่วยที่เป็นสาเหตุของภาวะเพ้อ รวมทั้งยารักษาอาการหลงผิด ซึ่งเป็นภาวะที่อาจนำไปสู่ภาวะหวาดระแวง(https://www.pobpad.com/หวาดระแวง) กลัว เกิดภาพหลอนอย่างรุนแรง หรือมีอาการสับสนกระวนกระวาย ส่วนผู้ที่เกิดอาการเพ้อจากการถอนเหล้าจะได้รับยาในกลุ่มเบนโซไดอะซีปีน เช่น ไดอะซีแพม () ฮาโลเพอริดอล เป็นต้น โดยแพทย์จะปรับลดปริมาณยาหรือให้หยุดใช้ยาเมื่อมีอาการดีขึ้น นอกจากนี้ ครอบครัวหรือคนใกล้ชิดที่ดูแลผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับยาที่อาจมีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการเพ้อ เพื่อคอยระวังให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงหรือจำกัดปริมาณการใช้ยาดังกล่าว การจัดสภาพแวดล้อม การดูแลจากบุคคลรอบข้าง สมาชิกในครอบครัวหรือบุคคลใกล้ชิดสามารถดูแลผู้ป่วยที่มีอาการเพ้อได้ ดังนี้ นอกจากนี้ ผู้ที่ดูแลผู้ป่วยก็ควรใส่ใจสุขภาพตนเองด้วย เพราะการดูแลผู้ป่วยภาวะนี้อาจทำให้รู้สึกเหนื่อยหรือท้อใจได้ นอกจากนี้ ควรหาข้อมูลและสอบถามแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะนี้อย่างละเอียด รวมทั้งอาจเข้าร่วมกลุ่มกับผู้ที่ดูแลผู้ป่วยภาวะเพ้อเหมือนกัน และแบ่งปันความรู้สึกหรือเรื่องราวที่พบเจอกับสมาชิกในครอบครัวหรือผู้ที่เคยดูแลผู้ป่วยที่มีอาการเพ้อมาก่อนเพื่อระบายความเครียด ภาวะแทรกซ้อนจากภาวะเพ้อ ผู้ป่วยภาวะเพ้อแต่ละรายจะใช้เวลาพักฟื้นแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสุขภาพกายและสุขภาพจิตของผู้ป่วยก่อนเกิดภาวะนี้ ผู้ป่วยที่มีสุขภาพดีมีโอกาสฟื้นตัวจากอาการเพ้อโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน ส่วนผู้ที่ที่มีโรคร้ายแรงหรือมีปัญหาสุขภาพเรื้อรังอาจหายเป็นปกติไม่ได้และอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นตามมา ดังนี้ นอกจากนี้ ผู้ป่วยอาจได้รับผลข้างเคียงจากยาที่ใช้รักษาอาการเพ้อ โดยการใช้ยารักษาอาการทางจิตเวชนั้นเสี่ยงก่อให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ หลอดเลือดสมองแตก และเสียชีวิตได้ ส่วนการใช้ยาเบนโซไดอะซีปีน อาจมีผลข้างเคียงทำให้ผู้ป่วยกระวนกระวายหรือเซื่องซึมมากขึ้น ควบคุมตัวเองไม่ได้ กล้ามเนื้อเคลื่อนไหวไม่ประสานกัน และเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุหกล้มอันจะนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ เช่น กระดูกหัก เป็นต้น การป้องกันภาวะเพ้อ แนวทางการป้องกันภาวะเพ้อที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการเข้ารับการวินิจฉัยและรักษาปัญหาสุขภาพที่เสี่ยงก่อให้เกิดภาวะเพ้อ นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมที่วุ่นวาย มีเสียงดัง อับทึบ หรือมีแสงสว่างไม่เพียงพอ ก็เป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการเพ้อขึ้นได้เช่นกัน การดูแลผู้ป่วยตามที่แพทย์แนะนำและจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมจึงเป็นวิธีที่ช่วยให้ผู้ป่วยมีสภาพจิตดีขึ้น นอนหลับได้ดี และลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างภาวะเพ้อ ซึ่งทำได้ดังนี้ความหมาย เพ้อ