Illness name: ต่อมลูกหมากโต
Description: ต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia) คือโรคที่เกิดขึ้นในเพศชาย โดยเฉพาะชายสูงวัย ซึ่งต่อมลูกหมากที่โตจนผิดปกติจะไปรบกวนระบบทางเดินปัสสาวะ จนทำให้ปัสสาวะขัด และก่อให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะได้ ต่อมลูกหมาก คือต่อมหนึ่งในร่างกายที่อยู่ภายในระบบสืบพันธุ์ของเพศชาย มีรูปร่างคล้ายผลวอลนัท ตำแหน่งของต่อมลูกหมากจะอยู่ที่บริเวณระหว่างกระเพาะปัสสาวะและอวัยวะเพศชาย ด้านหน้าของทวารหนัก และมีท่อปัสสาวะผ่านตรงกลางของต่อม ต่อมชนิดนี้จะมีในเพศชายเท่านั้น โดยทำหน้านี้ในการสร้างของเหลวที่คอยหล่อเลี้ยงอสุจิ ขนาดที่ผิดปกติของต่อมลูกหมาก นอกจากจะส่งผลทำให้ทางเดินปัสสาวะติดขัดแล้ว ก็ยังส่งผลให้อสุจิที่ถูกหลั่งออกมาไหลกลับเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะได้ หากไม่ได้รับการรักษาก็อาจส่งผลให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ ทางเดินปัสสาวะ และไตได้ในอนาคต อาการของต่อมลูกหมากโต อาการของต่อมลูกหมากโตมีสาเหตุมาจากขนาดของต่อมลูกหมากที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจนทำให้เกิดแรงดันที่กระเพาะปัสสาวะ และท่อปัสสาวะ และส่งผลกระทบกับการปัสสาวะ ซึ่งมีผู้ชายจำนวนไม่น้อยที่ละเลยอาการต่าง ๆ ของต่อมลูกหมากโต ดังนี้ นอกจากนี้ โรคต่อมลูกหมากโตยังเป็นสาเหตุของอาการปัสสาวะไม่ออก หรือภาวะแทรกซ้อน เช่น นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ การติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ หรือความเสียหายของไตได้อีกด้วย หากมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์ ได้แก่ มีไข้ หนาวสั่น ปวดที่สีข้าง บริเวณหลัง หรือบริเวณท้อง ปัสสาวะมีหนองหรือมีเลือดปน สาเหตุของต่อมลูกหมากโต มีการสันนิษฐานว่าสาเหตุของต่อมลูกหมากโตเกิดขึ้นจากความเสื่อมของร่างกายตามวัยในผู้ชาย และเกิดจากความเปลี่ยนแปลงของสมดุลฮอร์โมน นอกจากนี้ยังสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากพันธุกรรม โดยเฉพาะคนที่มีอาการค่อนข้างรุนแรงในกลุ่มคนที่มีอายุน้อยกว่า 60 ปี ซึ่งต้องรับการรักษาโดยผ่าตัด ปัจจัยเสี่ยงของโรคต่อมลูกหมากโตที่มักพบได้บ่อยคือ คนที่มีอายุมากกว่า 50 ปี นอกจากนี้ผู้ป่วยที่มีประวัติว่าคนในครอบครัวมีปัญหาเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก หรือผู้ที่มีความผิดปกติของอัณฑะจะยิ่งมีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคต่อมลูกหมากโตเพิ่มขึ้น การวินิจฉัยโรคต่อมลูกหมากโต การวินิจฉัยด้วยตนเอง การวินิจฉัยอาการด้วยตนเองในเบื้องต้นนั้น สามารถทำได้โดยการสังเกตความผิดปกติในการปัสสาวะ หากพบว่ามีการปัสสาวะที่บ่อยขึ้น หรือในขณะที่ปัสสาวะรู้สึกเจ็บ และมีปัสสาวะเป็นเลือด รวมทั้งมีอาการปัสสาวะไม่พุ่ง ไหลช้า หรือไหล ๆ หยุด ๆ ต้องเบ่งหรือรอนานกว่าจะสามารถปัสสาวะออกมาได้ ควรรีบไปพบแพทย์ในทันทีเพื่อความปลอดภัย การวินิจฉัยโดยแพทย์ เมื่อไปพบแพทย์ ขั้นแรกแพทย์จะทำการเช็คให้แน่ใจก่อนว่าความผิดปกติในการปัสสาวะที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากโรคต่อมลูกหมากโตหรือเกิดจากปัญหาอื่น ๆ ผ่านการซักประวัติเกี่ยวกับการรักษา และการตรวจสุขภาพ โดยจะเน้นไปที่ทางเดินปัสสาวะ การตรวจปัสสาวะ และการตรวจเลือด โดยการตรวจโรคต่อมลูกหมากโตที่มักใช้เพื่อวินิจฉัยอาการมีดังนี้ นอกจากนี้ แพทย์อาจมีการตรวจอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่าอาการที่เกิดขึ้นเป็นอาการของโรคต่อมลูกหมากโต โดยที่อาจตรวจเพิ่มเติมมีดังนี้ นอกจากนี้ หากผู้ป่วยมีอาการที่ซับซ้อน หรือมีภาวะแทรกซ้อนของโรคต่อมลูกหมากโต ก็จำเป็นจะต้องมีการตรวจอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น วิธีการรักษาต่อมลูกหมากโต การรักษาโรคต่อมลูกหมากโตอาจต้องใช้หลาย ๆ วิธีร่วมกัน แต่โดยหลัก ๆ แล้ว ได้แก่ การเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต การใช้ยารักษา และการผ่าตัด แต่ถ้าหากต่อมลูกหมากที่โตนั้นไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วย ก็อาจไม่จำเป็นต้องรักษา และติดตามอาการเป็นระยะ ๆ เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น ทั้งนี้ไม่ว่าผู้ป่วยจะทำการรักษาหรือไม่ ก็ควรจะปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิต ซึ่งควรปฏิบัติตนดังนี้ การใช้ยา เป็นวิธีพื้นฐานในการรักษาอาการโรคต่อมลูกหมากโตของผู้ที่มีอาการไม่รุนแรง ยาที่แพทย์นิยมใช้ ได้แก่ การผ่าตัด จะถูกใช้ในกรณีที่การรักษามีความรุนแรงและ/หรือการใช้ยาไม่ได้ผล หรือมีปัญหาทางเดินปัสสาวะติดขัด เกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ปัสสาวะเป็นเลือด หรือมีปัญหาเกี่ยวกับไต แต่จะไม่สามารถทำได้หากผู้ป่วยมีอาการของการติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะ หรือมีอาการของท่อปัสสาวะตีบ (Urethral Stricture) รวมถึงผู้ป่วยที่มีประวัติการรักษาต่อมลูกหมากด้วยรังสี หรือเคยผ่านการผ่าตัดทางเดินปัสสาวะ และผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับระบบประสาท เช่น โรคพาร์กินสัน (Parkinson's Disease) หรือโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis) โดยวิธีการผ่าตัดที่ใช้ในประเทศไทย ได้แก่ นอกจากนี้ ยังมีวิธีการรักษาแบบอื่น ๆ ที่ใช้ในผู้ป่วยที่ไม่เหมาะแก่การผ่าตัดรักษาโรคต่อมลูกหมากโต แต่มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า เช่น ภาวะแทรกซ้อนของโรคต่อมลูกหมากโต ภาวะแทรกซ้อนของโรคต่อมลูกหมากโตสามารถเกิดขึ้นได้ หากได้รับการรักษาที่ล่าช้า หรือไม่ถูกต้อง ซึ่งภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้ คือ ทว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เป็นโรคต่อมลูกหมากโตมักจะไม่ค่อยมีอาการของภาวะแทรกซ้อน และไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก อย่างไรก็ตาม อาการปัสสาวะไม่ออกอย่างเฉียบพลัน และอาการไตเสียหายก็สามารถคุกคามสุขภาพได้อย่างร้ายแรง วิธีป้องกันต่อมลูกหมากโต ปัจจุบันนี้ยังไม่มีวิธีใดที่ช่วยป้องกันปัญหาต่อมลูกหมากโตได้อย่างแท้จริง ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดก็คือผู้ชายที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปควรได้รับการตรวจต่อมลูกหมากเป็นประจำทุกปี และควรหมั่นสังเกตความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ และควรรีบไปพบแพทย์หากมีอาการเหล่านี้ นอกจากนี้ แม้ว่าผู้ป่วยเพศชายจะเคยได้รับการผ่าตัดรักษาต่อมลูกหมากโตมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะปลอดภัยจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เพราะในการผ่าตัดนั้นเป็นแค่เพียงนำบางส่วนของต่อมลูกหมากออกเท่านั้น ดังนั้น แม้จะรักษาโรคต่อมลูกหมากโตจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วแต่ผู้ป่วยก็ยังควรตรวจสุขภาพอยู่เป็นประจำ และพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามอาการ ซึ่งหากมีสัญญาณของมะเร็งต่อมลูกหมากเกิดขึ้นก็จะช่วยให้แพทย์สามารถรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพความหมาย ต่อมลูกหมากโต