Illness name: เจ็บส้นเท้า
Description: เจ็บส้นเท้า เป็นภาวะที่ผู้ป่วยมีอาการเจ็บส้นเท้าเมื่อยืน เดิน หรือวิ่ง ซึ่งมีหลายสาเหตุด้วยกัน ส่วนใหญ่นั้นเกิดจากการที่พังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบ โดยจะมีอาการปวดที่ด้านล่างหรือด้านหลังของส้นเท้า และมักเจ็บส้นเท้าแค่ข้างเดียว ยกเว้นบางรายอาจเกิดอาการทั้ง 2 ข้าง ส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้นและหายเป็นปกติเอง อย่างไรก็ตาม การรักษาจะช่วยทำให้หายเจ็บเร็วขึ้น ถึงแม้ว่าเจ็บส้นเท้าจะไม่ใช่อาการที่ร้ายแรง แต่ส่งผล กระทบต่อกิจกรรมในชีวิตประจำวันของผู้ป่วยได้ อาการเจ็บส้นเท้า ผู้ป่วยมักเจ็บส้นเท้าเมื่อมีการลงน้ำหนัก ทำให้บางรายเดินขากะเผลก อาจมีอาการเจ็บแปลบ บวมแดง หรือมีรอยฟกช้ำบริเวณส้นเท้า ทั้งนี้ การออกกำลังกายเบา ๆ อย่างการเดินอาจช่วยบรรเทาอาการปวดให้ดีขึ้นได้ แต่การเดินนานเกินไปก็อาจทำให้อาการปวดแย่ลงเช่นเดียวกับการยืดฝ่าเท้า อย่างการเดินขึ้นบันได หรือการเขย่งด้วยปลายเท้า นอกจากนี้ หากมีอาการต่อไปนี้ควรไปพบแพทย์ สาเหตุของอาการเจ็บส้นเท้า สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บส้นเท้า คือ การที่พังผืดใต้ฝ่าเท้าถูกทำลาย เกิดการอักเสบและตึงตัวมากเกินไป นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดอาการเจ็บส้นเท้า ดังต่อไปนี้ ปัญหากระดูกและข้อ เช่น ปัญหาจากเส้นเอ็นและพังผืดใต้ฝ่าเท้า เช่น นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีก เช่น ผู้ป่วยหลายรายโดยเฉพาะผู้สูงอายุ เชื่อว่าอาการเจ็บส้นเท้าเกิดขึ้นจากกระดูกงอก แต่ในความเป็นจริงแล้วการที่มีกระดูกงอกออกมาจากกระดูกส้นเท้านั้น ไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยทุกรายมีอาการเจ็บส้นเท้า การวินิจฉัยอาการเจ็บส้นเท้า แพทย์จะวินิจฉัยอาการเจ็บส้นเท้าด้วยการตรวจร่างกาย สังเกตจากเท้าว่ามีรอยแดง แผล อาการบวมพอง รอยฟกช้ำหรือไม่ ให้ผู้ป่วยลองขยับเท้าเพื่อดูอาการ ซักถามประวัติการใช้ยา อาการปวด หรือกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่อาจเป็นสาเหตุให้เจ็บส้นเท้าได้ เช่น การยืนติดต่อกันเป็นระยะเวลานานในแต่ละวัน การออกกำลังกายที่หนักเกินไป นอกจากนี้อาจตรวจส่วนอื่น ๆ เพิ่มเพื่อดูโรคที่ปรากฏร่วม กรณีที่วินิจฉัยหาสาเหตุไม่ได้ แพทย์จะตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมด้วยการเอกซ์เรย์ส้นเท้า และการอัลตราซาวด์ฝ่าเท้า เพื่อหาแนวทางการรักษาต่อไป การรักษาอาการเจ็บส้นเท้า การรักษานั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเจ็บส้นเท้า ซึ่งอาจจะต้องใช้วิธีการรักษาแตกต่างกันไป กรณีที่อาการไม่รุนแรงมาก อาจใช้ยา หรือออกกำลังกายด้วยการสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ยืดเส้น และทำกายภาพบำบัด นอกจากนี้ การรักษาด้วยวิธีเบื้องต้นต่อไปนี้จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บส้นเท้าให้ดีขึ้นได้ หากใช้วิธีการรักษาดังกล่าวข้างต้นแล้วไม่ได้ผลควรไปพบแพทย์ เพื่อพิจารณาการรักษาอื่น ๆ เช่น การฉีดยาระงับอาการปวด และการผ่าตัด กรณีที่ผู้ป่วยมีอาการเจ็บส้นเท้าเรื้อรังติดต่อกันเป็นเวลานานหลายสัปดาห์ ควรไปพบแพทย์ โดยแพทย์จะวินิจฉัยสาเหตุ ด้วยการซักถามอาการเจ็บส้นเท้าของผู้ป่วย ประวัติการใช้ยา การรักษา และจะตรวจเพิ่มเติมในกรณีที่ค้นพบว่าอาการเจ็บส้นเท้าไม่ได้เกิดจากการอักเสบแต่มีสาเหตุจากอาการเหล่านี้ ภาวะแทรกซ้อนของอาการเจ็บส้นเท้า ผู้ป่วยเจ็บส้นเท้าอาจมีอาการเหน็บชา อาการบวมแดง รอยเขียวช้ำ และอาการปวดแบบแปลบร้าวเกิดร่วมได้ หากปล่อยทิ้งไว้นานและไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้ผู้ป่วยเจ็บส้นเท้าเรื้อรังได้ และส่งผลกระทบต่อการเดินทำให้เดินกะเผลก จนเกิดปัญหาอื่น ๆ ที่เท้าตามมาได้ นอกจากนี้ เจ็บส้นเท้าเรื้อรังอาจเป็นสาเหตุของอาการบาดเจ็บที่สะโพก ข้อเข่า และหลังได้ การป้องกันอาการเจ็บส้นเท้า ผู้ป่วยป้องกันอาการเจ็บส้นเท้าได้ ด้วยการตรวจร่างกายก่อนออกกำลังกาย เพื่อประเมินผลการทำงานของหลอดเลือดหัวใจ ความเสี่ยงที่จะเกิดโรค หรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ผู้ป่วยที่เป็นโรคข้อต่ออักเสบ และโรคที่เกิดขึ้นกับเส้นประสาทที่ถูกทำลายด้วยโรคเบาหวาน ควรรักษาให้หายก่อนออกกำลังกาย นอกจากนี้ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ เพื่อป้องกันอาการเจ็บส้นเท้า ความหมาย เจ็บส้นเท้า