Illness name: โรคไบโพลาร์
Description: โรคไบโพลาร์ (Bipolar Disorder) หรือโรคอารมณ์สองขั้ว เป็นโรคที่ผู้ป่วยมีอารมณ์แปรปรวนผิดปกติ โดยมีอารมณ์ดีมากจนผิดปกติหรืออยู่ในภาวะอารมณ์ดีตื่นตัวผิดปกติ (Mania) สลับกับมีภาวะซึมเศร้าอย่างหนัก (Depression) ทำให้เกิดความยากลำบากต่อการทำงาน การเข้าสังคม และการใช้ชีวิต อาการของโรคไบโพลาร์ ผู้ป่วยโรคไบโพลาร์มี 2 ลักษณะเด่นสลับกัน คือ มีภาวะอารมณ์ดีผิดปกติและภาวะซึมเศร้าสลับกันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยมีอาการสังเกตที่เด่นชัด ดังนี้ ภาวะอารมณ์ดีผิดปกติ (Mania) ภาวะซึมเศร้า (Depression) สาเหตุของโรคไบโพลาร์ ปัจจัยทางชีวภาพ ปัจจัยทางกรรมพันธุ์ ปัจจัยอื่น ๆ การวินิจฉัยโรคไบโพลาร์ ผู้ป่วยที่มีอาการของโรคนี้ต้องไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย รวมถึงอาจต้องตรวจเลือดหรือปัสสาวะด้วย เพื่อหาสาเหตุของอาการเจ็บป่วยทางร่างกายอันเป็นที่มาของสภาวะทางอารมณ์ที่ไม่มั่นคง โดยจิตแพทย์จะใช้ชุดคำถามจากคู่มือการวินิจฉัยความผิดปกติทางจิต เพื่อทดสอบว่าผู้ป่วยเป็นโรคอารมณ์สองขั้วหรือไม่ รวมทั้งซักถามลักษณะอาการและปัญหาที่ประสบจากอาการที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ซักประวัติครอบครัวว่ามีญาติที่เคยประสบปัญหาสุขภาพจิตหรือไม่ ซักถามว่าเคยมีความคิดที่เป็นอันตรายต่อตนเองหรือผู้อื่นหรือไม่ และสอบถามเกี่ยวกับประวัติการใช้ยาที่อาจมีผลกระทบต่ออารมณ์ แล้วจึงจัดเตรียมขั้นตอนการรักษาที่เหมาะสมต่อไป การรักษาโรคไบโพลาร์ ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาตามกระบวนการที่เหมาะสมกับความรุนแรงและลักษณะอาการ อย่างไรก็ตาม โรคไบโพลาร์ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถใช้ยาปรับสมดุลสารสื่อประสาทและการบำบัดเพื่อช่วยบรรเทาและควบคุมอาการป่วยได้ ดังนี้ การรักษาด้วยยา โดยยาที่ใช้รักษาผู้ป่วยไบโพลาร์ ได้แก่ การบำบัดรักษา ภาวะแทรกซ้อนของโรคไบโพลาร์ โรคไบโพลาร์เพิ่มความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น โรคความผิดปกติด้านการกิน โรคทางจิต โรคไมเกรน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคสมาธิสั้น และโรคอ้วน เป็นต้น นอกจากนี้ พฤติกรรมหรืออาการที่เกิดจากอารมณ์แปรปรวนมักจะก่อปัญหาให้กับชีวิตผู้ป่วยอยู่เสมอ เช่น มีปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เกิดผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการเรียน การทำงาน และการตัดสินใจต่าง ๆ ติดสุราหรือยาเสพติด เกิดปัญหาอาชญากรรม ตลอดจนมีความคิดหรือพยายามฆ่าตัวตาย เป็นต้น การป้องกันโรคไบโพลาร์ แม้จะไม่มีวิธีที่แน่นอนในการป้องกันโรคไบโพลาร์ แต่อาจป้องกันปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ หรือป้องกันการเกิดอาการรุนแรงและภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ เช่น ความหมาย โรคไบโพลาร์
อาการของโรคไบโพลาร์จะเกิดขึ้นเมื่อมีสารสื่อประสาทนอร์อะดรีนาลีน เซโรโทนิน และโดปามีน ในระดับที่ไม่สมดุลกัน ซึ่งจะทำให้มีอารมณ์ดี อยู่ในภาวะร่าเริงผิดปกติ และจะมีภาวะซึมเศร้า เบื่อหน่าย สลับกันไป โดยสารสื่อประสาทในสมองที่ส่งผลต่อการเกิดโรคนี้ มีลักษณะดังนี้
ผู้ป่วยไบโพลาร์มักมีญาติที่ป่วยเป็นโรคนี้หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติทางอารมณ์ โดยเฉพาะญาติที่มีความใกล้ชิดเชื่อมโยงกันทางสายเลือดอย่างพ่อแม่ พี่หรือน้อง แม้จะยังไม่มีงานวิจัยสนับสนุนที่แน่ชัด แต่ก็ยังคงมีการศึกษายีนส์ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคนี้อยู่อย่างต่อเนื่อง
ผู้ป่วยอาจได้รับแรงกระตุ้นจากปัจจัยภายนอกที่กระทบกระเทือนต่อสภาพจิตใจ เช่น ความผิดหวัง ความเสียใจอย่างรุนแรงหรือฉับพลัน การเจ็บป่วยทางร่างกาย ปัญหาความสัมพันธ์กับบุคคลใกล้ชิด ความเครียดจากการเรียนและการทำงาน เป็นต้น
ผู้ป่วยต้องใช้ยาเพื่อปรับสารสื่อประสาทในสมองให้กลับสู่สภาวะปกติ ควบคุมสารไม่ให้สูงหรือต่ำจนทำให้เกิดภาวะอารมณ์ดีผิดปกติหรือภาวะซึมเศร้า แม้อาการจะดีขึ้นแล้ว แต่ผู้ป่วยต้องใช้ยาตามคำสั่งแพทย์อย่างต่อเนื่องหรือจนกว่าแพทย์จะสั่งให้หยุดใช้ รวมทั้งมาพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผลการรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากหยุดใช้ยาอย่างกะทันหันหรือขาดการรักษาอย่างต่อเนื่อง จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการกลับไปมีอาการของโรคซ้ำอีก หรืออาจมีอาการรุนแรงกว่าที่เคยเป็น
นอกเหนือจากการรักษาฟื้นฟูทางร่างกาย ผู้ป่วยไบโพลาร์ต้องเข้ารับการบำบัดจากจิตแพทย์อย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งประกอบไปด้วยการรับคำปรึกษาและการบำบัดทางจิต (Psychotherapy) การเข้าร่วมกลุ่มบำบัดกับผู้ป่วยคนอื่น ๆ และการศึกษาเกี่ยวกับโรคความผิดปกติทางจิตและอารมณ์ที่ตนเป็นอยู่ เพื่อให้รับมืออาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ดียิ่งขึ้น