Illness name: ครรภ์ไข่ปลาอุก
Description: ครรภ์ไข่ปลาอุก (Molar Pregnancy/Hydatidiform Mole) คือ ภาวะการตั้งครรภ์ที่ไม่สมบูรณ์ โดยตัวอ่อนของทารกและรกไม่เจริญขึ้นมาตามปกติ เนื้อเยื่อของตัวอ่อนกลายเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงในมดลูกแทน โดยทั่วไป รกจะช่วยลำเลียงสารอาหารไปเลี้ยงทารกในครรภ์ รวมทั้งกำจัดของเสียออกไป หากเซลล์ที่สร้างรกทำงานผิดปกติหลังจากที่ไข่ปฏิสนธิกับอสุจิแล้ว จะทำให้เกิดถุงน้ำรังไข่หรือซีสต์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายพวงองุ่นสีขาวหรือไข่ปลา เซลล์ดังกล่าวจะเจริญภายในมดลูกอย่างรวดเร็วแทนการเจริญเป็นทารกโดยมีชื่อเรียกว่าครรภ์ไข่ปลาอุก แม้ครรภ์ไข่ปลาอุกจะเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง แต่ถือเป็นภาวะก่อนเป็นมะเร็งของโรคมะเร็งไข่ปลาอุกหรือมะเร็งเนื้อรก (Gestational Trophoblastic Disease) ทั้งนี้ ครรภ์ไข่ปลาอุกยังมีลักษณะที่แตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับความสมดุลของโครโมโซมในไข่ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
อาการครรภ์ไข่ปลาอุก ครรภ์ไข่ปลาอุกจะปรากฏอาการคล้ายอาการเริ่มตั้งครรภ์ทั่วไป เช่น ประจำเดือนขาด หรือแพ้ท้อง ทั้งนี้ยังมีลักษณะอาการเหมือนภาวะแท้ง ผู้ตั้งครรภ์ส่วนมากมักเข้าใจผิดว่าอาการครรภ์ไข่ปลาอุกที่เกิดขึ้นเป็นอาการแท้ง โดยผู้ที่ประสบภาวะครรภ์ไข่ปลาอุกจะเกิดอาการ ดังนี้
สาเหตุครรภ์ไข่ปลาอุก ครรภ์ไข่ปลาอุกเกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมภายในไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิ ส่งผลให้ไข่เจริญขึ้นมาโดยไม่มีตัวอ่อนของทารก หรือตัวอ่อนของทารกมีความผิดปกติ โดยทั่วไปแล้ว ไข่ที่ได้ปฏิสนธิกับอสุจิจะมีโครโมโซมจำนวน 23 โครโมโซมที่ได้รับมาจากพ่อและแม่เท่ากัน ทำให้เกิดการตั้งครรภ์และเจริญเป็นทารกได้ตามปกติ ส่วนผู้ตั้งครรภ์ที่ประสบภาวะครรภ์ไข่ปลาอุกจะเกิดความผิดปกติของโครโมโซม ซึ่งแบ่งตามประเภทของครรภ์ปลาอุก ดังนี้
แพทย์จะวินิจฉัยครรภ์ไข่ปลาอุก โดยพิจารณาจากอาการที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ ขนาดของมดลูก และระดับฮอร์โมนเอชซีจี ซึ่งเป็นฮอร์โมนเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ การตรวจครรภ์ไข่ปลาอุกมี ดังนี้
การรักษาครรภ์ไข่ปลาอุก ผู้ตั้งครรภ์ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าประสบภาวะครรภ์ไข่ปลาอุก จะตั้งครรภ์ต่อไปไม่ได้ ควรเข้ารับการรักษาเพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้
ภาวะแทรกซ้อนจากครรภ์ไข่ปลาอุก ครรภ์ไข่ปลาอุกจะทำให้มีเลือดออกจากช่องคลอด ซึ่งควรได้รับการรักษาทันที อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้ารับการรักษานำเนื้องอกออกไปแล้ว อาจมีเนื้องอกหลงเหลืออยู่และเจริญขึ้นมาได้อีก ซึ่งภาวะดังกล่าวจะกลายเป็นมะเร็งไข่ปลาอุก ผู้ที่เกิดครรภ์ไข่ปลาอุกชนิดครรภ์ไข่ปลาอุกอย่างเดียวมักเกิดมะเร็งไข่ปลาอุกได้มากกว่าผู้ที่เกิดครรภ์ไข่ปลาอุกชนิดที่มีทารกร่วมด้วย ผู้ที่เกิดมะเร็งไข่ปลาอุกจะมีระดับฮอร์โมนเอชซีจีสูงหลังนำเนื้องอกครรภ์ไข่ปลาอุกออกไปแล้ว บางรายอาจเกิดเนื้องอกลุกลามเข้าไปที่เยื่อบุมดลูกชั้นกลาง ซึ่งทำให้เลือดออกจากช่องคลอด การรักษามะเร็งไข่ปลาอุกมักใช้วิธีเคมีบำบัดหรือผ่าตัดมดลูก เนื่องจากเนื้องอกอาจแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย ผู้ป่วยจะได้รับการทำเคมีบำบัด ซึ่งจะได้รับแอคติโนมัยซิน ดี (Actinomycin D) เป็นเวลา 5 วัน หรือ ยาเมโธเทรกเซท ร่วมกับกรดโฟลินิก (Folinic Acid) โดยแพทย์จะฉีดยาเมโธเทรกเซท และให้รับประทานกรดโฟลินิกชนิดเม็ด แบบวันเว้นวันเป็นเวลา 8 วัน และเว้นช่วงพัก 6 วัน ก่อนจะกลับมาเริ่มให้ยาอีกครั้ง โดยจะทำเช่นนี้จนกว่าฮอร์โมนเอชซีจีจะกลับมาเป็นปกติ โดยแพทย์จะตรวจทุกสัปดาห์อย่างน้อย 3 ครั้ง จนกว่าอาการจะเป็นปกติ จากนั้นจะตรวจเดือนละครั้งจนครบ 6 เดือน และตรวจทุก 1-3 เดือน จนครบ 1 ปี ทั้งนี้ ผู้ป่วยอาจได้รับการฉายรังสี ซึ่งแพทย์จะพิจารณาตามความเหมาะสม การป้องกันครรภ์ไข่ปลาอุก ผู้ตั้งครรภ์ที่อายุน้อยกว่า 20 ปี หรืออายุมากกว่า 40 ปี เสี่ยงประสบปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพครรภ์ได้สูงซึ่งรวมถึงภาวะครรภ์ไข่ปลาอุก อย่างไรก็ตาม วิธีป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากมะเร็งไข่ปลาอุกที่ดีที่สุด คือเข้ารับการตรวจครรภ์ตามนัดหมายการฝากครรภ์อย่างเคร่งครัด ส่วนผู้ตั้งครรภ์ที่เคยประสบภาวะครรภ์ไข่ปลาอุกควรพบแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำในการดูแลการตั้งครรภ์ครั้งต่อไปไม่ให้เกิดภาวะดังกล่าวอีก โดยแพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยรอประมาณ 6 เดือน - 1 ปี ก่อนจะเริ่มตั้งครรภ์ใหม่ ทั้งนี้ แพทย์จะอัลตราซาวด์ให้เร็วขึ้น เพื่อติดตามการรักษา รวมทั้งตรวจดูสุขภาพครรภ์โดยรวมว่าไม่เกิดความผิดปกติใด ๆ ความหมาย ครรภ์ไข่ปลาอุก
อย่างไรก็ตาม ครรภ์ไข่ปลาอุกถือเป็นภาวะที่พบได้ไม่บ่อยนัก โดยจะพบในผู้ตั้งครรภ์ประมาณ 1-3 คน จากผู้ตั้งครรภ์จำนวน 1,000 คน ผู้ที่ประสบภาวะดังกล่าวจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน เนื่องจากครรภ์ไข่ปลาอุกจะก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ทั้งนี้ ผู้ตั้งครรภ์ที่มีเลือดออกจากช่องคลอด ควรรีบพบแพทย์ เนื่องจากอาการดังกล่าวยังเกี่ยวข้องกับภาวะอันตรายอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพครรภ์ ผู้ตั้งครรภ์ควรเข้ารับการอัลตราซาวด์และตรวจเลือด เพื่อวินิจฉัยสาเหตุของอาการดังกล่าว
นอกจากนี้ ผู้ตั้งครรภ์สามารถเสี่ยงเกิดครรภ์ไข่ปลาอุกได้ในกรณีที่มีปัจจัยเสี่ยง ดังนี้
การวินิจฉัยครรภ์ไข่ปลาอุก
นอกจากนี้ แพทย์จะตรวจปัญหาสุขภาพครรภ์อื่น ๆ ร่วมด้วย ได้แก่ ภาวะครรภ์เป็นพิษ ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน (Hyperthyroidism) ภาวะโลหิตจาง รวมทั้งเอกซเรย์หน้าอกผู้ป่วย เพื่อดูว่าเซลล์ที่ทำงานผิดปกติจากครรภ์ไขปลาอุกแพร่เชื้อไปที่ปอดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม กรณีที่เซลล์ดังกล่าวแพร่เชื้อไปส่วนต่าง ๆ ของร่างกายพบได้ไม่บ่อยนัก หากเกิดการแพร่เเชื้อในลักษณะนี้ เซลล์มักลามไปที่ปอดได้มากที่สุด
นอกจากนี้ ผู้ตั้งครรภ์ที่ประสบภาวะครรภ์ไข่ปลาอุกควรได้รับการดูแลสุขภาพจิตใจด้วย เนื่องจากผู้ตั้งครรภ์จะรู้สึกไม่ดีที่ต้องสูญเสียทารก อีกทั้งรู้สึกเครียดจากการต้องเสี่ยงเกิดเนื้อร้ายเจริญขึ้นมา ผู้ตั้งครรภ์ควรพูดคุยกับคู่รัก หรือปรึกษาแพทย์ นักให้คำปรึกษา หรือบุคคลรอบข้างที่รู้สึกไว้ใจ เพื่อระบายความรู้สึกให้ผ่อนคลายขึ้น รวมทั้งควรพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง เพื่อติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง