Illness name: โรคเพมฟิกัส pemphigus
Description: โรคเพมฟิกัส (Pemphigus) เป็นกลุ่มอาการของโรคผิวหนังที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดตุ่มน้ำพองที่มีหนองขึ้นบริเวณผิวหนังหรือเยื่อบุผิวอื่น ๆ เช่น ในดวงตา จมูก ปาก ลำคอ หรืออวัยวะเพศ และเมื่อตุ่มน้ำแตกออกจะกลายเป็นแผลและทำให้รู้สึกเจ็บปวดได้ โรคเพมฟิกัสสามารถพบได้ทุกวัย แต่จะพบมากในวัยกลางคนหรือผู้สูงอายุ แม้จะไม่ใช่โรคติดต่อ แต่ถือเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องได้รับการรักษาต่อเนื่องเพื่อควบคุมอาการ เนื่องจากการปล่อยให้มีอาการโดยไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้เกิดการลุกลาม ติดเชื้อ หรือในกรณีร้ายแรงอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต อาการหลักคือเกิดตุ่มน้ำพองขึ้นบนผิวหนังหรือเยื่อบุผิวและสามารถแตกออกได้ง่าย เมื่อกลายเป็นแผลอาจทำให้รู้สึกเจ็บปวดและนำไปสู่การติดเชื้อตามมา ทั้งนี้ อาการของโรคเพมฟิกัสสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ดังนี้ เป็นประเภทที่พบได้บ่อยที่สุด ผู้ป่วยจะมีตุ่มน้ำพองภายในปาก มีลักษณะอ่อนนุ่มและแตกออกได้ง่าย สามารถลุกลามไปสู่ผิวหนังบริเวณอื่นได้ทั่วทั้งร่างกาย ผู้ป่วยมักรู้สึกเจ็บปวดบริเวณที่มีอาการ หากมีตุ่มน้ำภายในปากจะทำให้รับประทานอาหารลำบากกว่าปกติ โรคเพมฟิกัสชนิดนี้จะไม่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการคันและมักไม่ทิ้งรอยแผลเป็นบนผิวหนัง แต่ในผู้ที่มีอาการติดเชื้ออาจเกิดรอยแผลเป็นได้ เป็นประเภทที่พบได้น้อยกว่า ผู้ป่วยจะเริ่มมีตุ่มน้ำพองบริเวณหนังศีรษะหรือใบหน้า และลามไปยังหน้าอก หลังหรือไหล่ แต่มักไม่เกิดภายในปาก ผู้ป่วยจะรู้สึกคันในบริเวณที่มีอาการและมักไม่รู้สึกเจ็บปวด อาการของโรคเพมฟิกัสอาจคล้ายคลึงกับโรคเพมฟิกอยด์ (Bullous Pemphigoid) และโรคเริม เนื่องจากอาการของโรคจะมีตุ่มน้ำขึ้นบนผิวหนังคล้ายกัน จึงอาจเข้าใจผิดว่าเป็นโรคเดียวกัน แต่ตุ่มน้ำของโรคเพมฟิกอยด์จะมีลักษณะแตกได้ยากและพบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ขณะที่โรคเริมจะเกิดจากการติดเชื้อไวรัสและทำให้เกิดตุ่มน้ำบริเวณผิวหนังหรืออวัยวะเพศ ไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย อย่างไรก็ตาม หากมีอาการคัน มีตุ่มขึ้นภายในปากหรือบนผิวหนังโดยที่อาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษา โรคเพมฟิกัสเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและไม่ใช่โรคติดต่อ โดยปกติแล้ว ระบบภูมิคุ้มกันจะสร้างแอนติบอดี้ (Antibody) ซึ่งมีหน้าที่ต่อต้านสิ่งแปลกปลอมอย่างแบคทีเรียหรือไวรัสที่เข้าสู่ร่างกาย แต่หากระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ ร่างกายอาจสร้างแอนติบอดี้ขึ้นมาทำลายเซลล์ผิวหนังดีในชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) จึงทำให้เกิดตุ่มน้ำพองขึ้นตามมา แต่สาเหตุของระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด ในบางกรณี โรคเพมฟิกัสอาจเกิดขึ้นจากปัจจัยต่อไปนี้ โรคเพมฟิกัสเป็นโรคที่วินิจฉัยได้ยาก ผู้ป่วยอาจต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังเนื่องจากโรคนี้มีลักษณะคล้ายกับโรคอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดตุ่มน้ำขึ้นบริเวณผิวหนัง โดยในขั้นแรกจะเริ่มจากการสอบถามอาการ ประวัติสุขภาพของผู้ป่วย และตรวจร่างกายเบื้องต้น โดยสังเกตอาการที่บริเวณผิวหนังหรือภายในช่องปาก หลังจากนั้นแพทย์อาจตรวจเพิ่มเติมด้วยวิธีต่อไปนี้ หากรับการรักษาโรคเพมฟิกัสเร็วอาจสามารถควบคุมอาการของได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การรักษาโรคเพมฟิกัสสามารถรักษาแบบผู้ป่วยนอก โดยใช้วิธีดูแลตนเองที่บ้านร่วมกับการใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการและควบคุมการเกิดตุ่มน้ำพอง ดังนี้ ผู้ป่วยสามารถดูแลตนเองเพื่อบรรเทาอาการของโรคได้ดังนี้ ในบางกรณี แพทย์อาจให้ผู้ป่วยหยุดรับประทานยาที่อาจกระตุ้นให้เกิดโรคเพมฟิกัส เพื่อช่วยให้อาการของโรคเพมฟิกัสดีขึ้น แต่แพทย์อาจสั่งจ่ายยาเพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของตุ่มน้ำพองที่บริเวณอื่นของร่างกาย โดยอาจใช้ยาชนิดใดชนิดหนึ่งหรือหลายชนิดร่วมกัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย เช่น โดยทั่วไป ผู้ป่วยมักมีอาการดีขึ้นหลังได้รับการรักษา แม้จะใช้ระยะเวลารักษานานหลายปี และอาจได้รับยาเพื่อควบคุมไม่ให้กลับมามีอาการซ้ำในภายหลัง นอกจากนี้ ผู้ป่วยบางรายอาจได้รับการรักษาที่โรงพยาบาล อย่างการกรองพลาสมา (Plasmapheresis) เพื่อกำจัดแอนติบอดี้ในเลือดที่ทำลายผิวหนังและทำให้เกิดตุ่มน้ำพอง หรือการดูแลรักษาแผลติดเชื้อเพิ่มเติม โรคเพมฟิกัสอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตหากไม่ได้รับการรักษา โดยอาจพบภาวะแทรกซ้อนดังต่อไปนี้ โรคเพมฟิกัสมักเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันซึ่งไม่สามารถป้องกันได้ แต่หากพบอาการผิดปกติที่ผิวหนังหรือในปาก เช่น พบตุ่มน้ำ รอยแผล หรือมีอาการเจ็บปวด ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาต่อไป รวมถึงถึงผู้ป่วยที่ต้องรับประทานยาเพนิซิลลามีน (Penicillamine) ยากลุ่มเอซีอี อินฮิบิเตอร์ (ACE Inhibitors) หรือยาอื่น ๆ ที่อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดโรคเพมฟิกัส ควรขอคำแนะนำจากแพทย์เพิ่มเติม ความหมาย โรคเพมฟิกัส (Pemphigus)
อาการของโรคเพมฟิกัส
โรคเพมฟิกัสที่มีการแยกตัวของผิวหนังชั้นลึก (Pemphigus Vulgaris)
โรคเพมฟิกัสที่มีการแยกตัวของผิวหนังชั้นตื้น (Pemphigus Foliaceus)
สาเหตุของโรคเพมฟิกัส
การวินิจฉัยโรคเพมฟิกัส
การรักษาโรคเพมฟิกัส
การดูแลตนเอง
การใช้ยา
ภาวะแทรกซ้อนของโรคเพมฟิกัส
การป้องกันโรคเพมฟิกัส