Illness name: sars
Description: โรคซาร์ส (Severe Acute Respiratory Syndrome: SARS) หรือโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสในตระกูลโคโรนาไวรัส (Coronavirus) เดิมพบการติดเชื้อนี้ได้เฉพาะในสัตว์ที่มีขนาดเล็ก แต่ต่อมามีการกลายพันธุ์ เกิดการติดเชื้อในมนุษย์ขึ้น และแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงแรกผู้ที่ติดเชื้อมีอาการคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส หรือมีอาการติดเชื้อที่ปอดและทางเดินหายใจ เช่น ไอแห้ง หรือหายใจลำบาก เป็นต้น การรายงานเกี่ยวกับโรคซาร์สเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2002 ที่ประเทศจีน แพร่กระจายไปมากกว่า 20 ประเทศในทวีปเอเชียอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ รวมถึงยุโรป และไม่พบรายงานการระบาดของโรคอีกตั้งแต่ปี 2004 ผู้ป่วยจะมีอาการหลังจากได้รับเชื้อไวรัสแล้วประมาณ 2-7 วัน บางรายอาจมีระยะฟักตัวของโรคนานถึง 10 วัน ในช่วงแรกมักมีอาการคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ รวมถึงอาจมีอาการต่าง ๆ ร่วมด้วยดังต่อไปนี้ นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคซาร์สคือ เชื้อไวรัสที่อยู่ในตระกูลเดียวกับ โคโรนาไวรัส (Coronavirus) ซึ่งเป็นไวรัสที่ทำให้เกิดไข้หวัด เป็นไวรัสที่พบได้ในสัตว์ที่มีขนาดเล็ก และเชื้อเกิดการกลายพันธุ์และแพร่กระจายจนทำให้เกิดการติดเชื้อในมนุษย์ได้ ไวรัสซาร์สแพร่กระจายผ่านสารคัดหลั่งได้หลายช่องทาง เช่น หากพบว่ามีไข้สูงหลังการท่องเที่ยวหรือกลับจากประเทศที่มีการระบาดของเชื้อ แพทย์จะวินิจฉัยจากประวัติทางการแพทย์และอาการของผู้ป่วย ร่วมกับการตรวจเพิ่มเติมเพื่อการวินิจฉัยดังต่อไปนี้ ผู้ที่มีอาการเข้าข่ายหรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคซาร์สจำเป็นต้องแยกตัวออกไปเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสและเฝ้าสังเกตอาการภายในโรงพยาบาล ในปัจจุบันยังไม่มีการรักษาแบบจำเพาะและมีประสิทธิภาพสำหรับผู้ป่วยโรคซาร์ส แต่สามารถรักษาได้เพื่อบรรเทาอาการ โดยมีแนวทางดังต่อไปนี้ อย่างไรก็ตาม แพทย์อาจพิจารณาและหาวิธีรักษาแตกต่างออกไป เนื่องจากหลักฐานการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการรักษายังไม่เพียงพอ วิธีการรักษาบางอย่างจึงไม่สามารถนำไปใช้ได้กับผู้ป่วยโรคซาร์สทุกราย โรคซาร์สเป็นโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง ผู้ที่ติดเชื้อ 90% จะฟื้นตัวจากโรคได้ นั่นหมายความว่าผู้ที่ติดเชื้ออีก 10% ไม่สามารถฟื้นตัวจากโรคและเสียชีวิตในที่สุด ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีภาวะแทรกซ้อนของโรคปอดบวมหรือปอดอักเสบเกิดขึ้น ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ หากมีอาการรุนแรงอาจจำเป็นใช้เครื่องช่วยหายใจ บางรายอาจเกิดภาวะการหายใจล้มเหลว หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น หัวใจและตับล้มเหลว เป็นต้น ในผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคตับอักเสบ หรือโรคหัวใจ จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนและเสียชีวิตได้มากที่สุด ในขณะนี้ไม่พบรายงานการระบาดของโรคตั้งแต่ปี 2004 แต่หากมีการระบาด วิธีการป้องกันโรคซาร์สที่ดีที่สุดคือ หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรค หากมีความจำเป็นต้องใกล้ชิดหรือดูแลผู้ที่ติดเชื้อไวรัส ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสด้วยการปฏิบัติตามแนวทางดังต่อไปนี้ความหมาย โรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง (SARS)
อาการของโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง
สาเหตุของโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง
การวินิจฉัยโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง
การรักษาโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง
ภาวะแทรกซ้อนของโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง
การป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง