Illness name: cardiomyopathy
Description: Cardiomyopathy (โรคกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ) เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อหัวใจ (Myocardium) ทำให้ไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้ตามปกติ Cardiomyopathy แบ่งออกได้หลายประเภท และอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งการถ่ายทอดทางพันธุกรรม โรคหลอดเลือดหัวใจ หรือการได้รับยาบางชนิด ผู้ป่วย Cardiomyopathy ที่ไม่มีอาการอาจไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษา และผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงสามารถปรับพฤติกรรมหรือรับประทานยาเพื่อควบคุมอาการ แต่ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยการรับประทานยา การใส่เครื่องมือช่วยในการทำงานของหัวใจ หรืออาจต้องเข้ารับการผ่าตัดหากมีอาการรุนแรงมาก เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ ลิ้นหัวในรั่ว หรือภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เป็นต้น ในระยะแรกมักไม่แสดงอาการใด ๆ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป ผู้ป่วยอาจมีอาการที่อาจสังเกตได้ ดังนี้ หากมีอาการหรือสัญญาณผิดปกติใด ๆ ของ Cardiomyopathy ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์ เนื่องจากการปล่อยให้มีอาการผิดปกติทิ้งไว้อาจทำให้มีอาการรุนแรงขึ้น และควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากคนในครอบครัวมีประวัติของโรคนี้มาก่อน อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรรีบไปพบแพทย์ทันทีหากมีอาการหายใจติดขัดอย่างรุนแรง รู้สึกเจ็บหน้าอกหรือเป็นลมหมดสติ สาเหตุส่วนใหญ่ของการเกิด Cardiomyopathy ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่อาจเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมหรือเป็นผลจากโรคประจำตัว โดย Cardiomyopathy สามารถแบ่งย่อยลงไปเป็น 4 ประเภทหลัก ดังนี้ ภาวะหัวใจโตมักพบในผู้ที่มีอายุระหว่าง 20-60 ปี จัดเป็น Cardiomyopathy ประเภทที่พบได้บ่อยที่สุด โดยเกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้ายขยายตัวและผนังห้องหัวใจบางลง ทำให้ไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้ตามปกติ และอาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจวาย ซึ่งภาวะหัวใจโตอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ ภาวะหัวใจขาดเลือด การดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากและติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือการถ่ายทอดทางพันธุกรรม เป็นต้น เป็นสภาวะที่กล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้ายหนาตัวผิดปกติทำให้อุดกั้นการไหลเวียนของเลือด เป็นภาวะที่คาดว่าเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม โดยทั่วไปอาจไม่มีอาการที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย แต่อาจทำให้เกิดความผิดปกติอื่นตามมาได้ในบางกรณี เช่น ภาวะหัวใจห้องบนเต้นสั่นพลิ้ว (Atrial Fibrillation) ลิ้นหัวใจรั่ว ที่ลิ้นไมตรัล (Mitral Regurgitation) และมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเยื่อบุหัวใจอักเสบ (Endocarditis) เป็นสภาวะที่พบได้ยาก เกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อหัวใจแข็งตัวและไม่สามารถยืดหยุ่นได้ ทำให้การไหลเวียนของเลือดเข้าสู่ห้องหัวใจผิดปกติขณะที่หัวใจคลายตัว เป็นภาวะที่พบได้กับคนทุกวัย แต่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ทั้งนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดอาการที่แน่ชัด แต่อาจเกิดจากโรคบางอย่าง เช่น ภาวะเหล็กเกิน (Hemochromatosis) โรคแอมีลอยโดซิส (Amyloidosis) โรคหนังแข็ง (Scleroderma) และโรคซาร์คอยด์ (Sarcoidosis) เป็นต้น เป็นภาวะที่เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างขวาตาย ทำให้มีไขมันและพังผืดแทรกแทนที่ และอาจไปรบกวนการทำงานของคลื่นไฟฟ้าหัวใจจนทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Arrhythmia) หรือภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน (Cardiac Arrest) ได้ โดยสาเหตุอาจเกิดจากความผิดปกติของยีนหรือการออกกำลังกายอย่างหักโหมจนเกินไป Cardiomyopathy อาจเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่น ๆ ได้แก่ แพทย์จะสอบถามอาการ ประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วยหรือบุคคลในครอบครัวที่อาจพบว่าเคยเป็นโรคหัวใจมาก่อน ซึ่งถือเป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิด Cardiomyopathy รวมทั้งตรวจร่างกายเบื้องต้นและอาจตรวจเพิ่มเติมดังนี้ จุดมุ่งหมายของการรักษา Cardiomyopathy คือการป้องกันอาการไม่ให้แย่ลงและลดโอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน โดยวิธีการรักษาอาจแตกต่างกันตามอาการและความรุนแรงที่เกิดขึ้น ดังนี้ ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงอาจไม่จำเป็นต้องรักษา แต่ใช้วิธีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก็อาจช่วยให้อาการดีขึ้นได้ และอาจช่วยลดโอกาสการกลับมามีอาการซ้ำอีกในภายหลัง แพทย์อาจสั่งจ่ายยาที่ช่วยการทำงานของหัวใจและการไหลเวียนของเลือด ได้แก่ ยาลดความดันโลหิต ยาที่ช่วยควบคุมให้อัตราการเต้นของหัวใจช้าลงหรือเต้นในอัตราปกติ ยาต้านเกล็ดเลือด ยาขับปัสสาวะ และยาแอลโดสเตอร์โรน บล็อคเกอร์ (Aldosterone Blockers) เพื่อรักษาสมดุลของแร่ธาตุในร่างกาย ทั้งนี้ หากผู้ป่วยมีโรคประจำตัวอย่างโรคเบาหวานหรือความดันโลหิตสูง ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด วิธีการรักษา Cardiomyopathy โดยไม่ผ่าตัด อาจใช้วิธีต่อไปนี้ การผ่าตัดที่นำมาใช้ในการรักษา Cardiomyopathy คือการผ่าตัดแบบเปิดเพื่อตัดเอากล้ามเนื้อหัวใจส่วนที่หนาผิดปกติออก ทำให้เลือดไหลเวียนจากหัวใจได้ดีขึ้น และช่วยลดการเกิดภาวะลิ้นหัวใจรั่ว นอกจากนี้ แพทย์อาจผ่าตัดใส่เครื่องมือบริเวณใกล้กับหัวใจ เพื่อช่วยรักษาอาการและช่วยในการทำงานของหัวใจ ได้แก่ เครื่องกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้า (Implantable Cardioverter Defibrillator) เครื่องช่วยการไหลเวียนของเลือด (Ventricular assist device) และเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker) Cardiomyopathy อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ดังต่อไปนี้ แม้จะไม่สามารถป้องกันสาเหตุที่เกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ แต่อาจลดความเสี่ยงของการเกิด Cardiomyopathy จากสาเหตุอื่น อย่างโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และหัวใจขาดเลือดที่อาจนำไปสู่ Cardiomyopathy ได้ด้วยวิธีต่อไปนี้ความหมาย Cardiomyopathy
อาการของ Cardiomyopathy
สาเหตุของ Cardiomyopathy
ภาวะหัวใจโต (Dilated Cardiomyopathy)
ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจหนาผิดปกติ (Hypertrophic Cardiomyopathy)
ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจหดรัดผิดปกติ (Restrictive cardiomyopathy)
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะจากกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างขวาผิดปกติ (Arrhythmogenic Right Ventricular Dysplasia)
สาเหตุอื่น ๆ
การวินิจฉัย Cardiomyopathy
การรักษา Cardiomyopathy
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
การรักษาด้วยยา
การรักษาโดยไม่ผ่าตัด
การรักษาด้วยการผ่าตัด
ภาวะแทรกซ้อนของ Cardiomyopathy
การป้องกัน Cardiomyopathy