Illness name: acl injury
Description: ACL Injury คืออาการบาดเจ็บหรือฉีกขาดของเอ็นไขว้หน้าของข้อเข่า (Anterior Cruciate Ligament) ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นเอ็นหลักในหัวเข่า โดยมักเกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนทิศทาง กระโดด หรือหยุดอย่างกะทันหัน ส่วนมากจะเกิดในขณะเล่นกีฬาอย่างฟุตบอลหรือบาสเกตบอล ทำให้ผู้ป่วยอาจได้ยินเสียงในข้อเข่า มีอาการปวดหรือบวมที่ข้อเข่า การรักษา ACL Injury อาจแตกต่างกันความความรุนแรงของอาการ ผู้ป่วยอาจพักการใช้งานข้อเข่าและออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของข้อเข่า แต่บางรายอาจจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดและฟื้นฟูร่างกายร่วมด้วย ทั้งนี้ หากปล่อยให้เกิดอาการผิดปกติโดยไม่ทำการรักษาอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในภายหลัง สัญญาณหรืออาการของ ACL Injury ที่อาจพบได้มีดังนี้ อาการของ ACL Injury แบ่งออกได้เป็น 3 ระยะ ได้แก่ หากมีอาการผิดปกติเหล่านี้ ควรไปพบแพทย์ เนื่องจากข้อเข่ามีโครงสร้างภายในที่ซับซ้อน จึงควรได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป หัวเข่าประกอบด้วยกระดูก กระดูกอ่อน เอ็นกล้ามเนื้อ และเอ็นยึด โดยเอ็นยึดภายในข้อเข่าเป็นตัวยึดระหว่างกระดูกแต่ละชิ้นให้เชื่อมต่อกัน ส่วนเอ็นไขว้หน้า (Anterior Cruciate Ligament) จะอยู่บริเวณกลางหัวเข่า โดยเป็นเส้นเอ็นหนึ่งในสองที่ทำหน้าที่ยึดระหว่างกระดูกหน้าแข้งและกระดูกต้นขา เพื่อไม่ให้กระดูกหน้าแข้งเคลื่อนออกมาด้านหน้าของกระดูกต้นขาและช่วยรักษาความมั่นคงของข้อเข่าเอาไว้ การบาดเจ็บหรือฉีกขาดของเอ็นไขว้หน้าของข้อเข่าเกิดจากการทำกิจกรรมหรือการเล่นกีฬาที่ทำให้ข้อเข่าได้รับแรงกดทับหรือแรงกระแทก โดยอาจเกิดขึ้นจากการหยุดหรือเปลี่ยนทิศทางกะทันหัน การชะลอฝีเท้าขณะวิ่ง การกระโดดลงมายืนผิดท่า การบิดเท้าขณะยืนนิ่ง การได้รับแรงปะทะที่หัวเข่า อย่างการเข้าแย่งลูกฟุตบอล จึงมักพบการเกิด ACL Injury ได้บ่อยในนักกีฬาประเภทต่าง ๆ เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล ยิมนาสติก เล่นสกี เป็นต้น นอกจากนี้ การสวมรองเท้าที่ไม่พอดีกับเท้า การใช้อุปกรณ์ในการเล่นกีฬาที่ไม่เหมาะสม หรือการเล่นกีฬาบนพื้นหญ้าเทียม อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิด ACL Injury ได้เช่นกัน ทั้งนี้ ผู้หญิงเป็นเพศที่มีความเสี่ยงในการเกิด ACL Injury มากกว่า เนื่องจากสรีระ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และฮอร์โมนที่แตกต่างจากเพศชาย แพทย์จะสอบถามอาการ ประวัติสุขภาพของผู้ป่วย และตรวจร่างกายเบื้องต้น โดยแพทย์จะตรวจอาการบวมเจ็บของหัวเข่าโดยเปรียบเทียบกับหัวเข่าอีกข้างที่ไม่มีอาการ และอาจให้ผู้ป่วยลองขยับหัวเข่าไปมาเพื่อประเมินความสามารถในการเคลื่อนไหวข้อเข่า โดยทั่วไป วิธีการตรวจร่างกายเบื้องต้นเพียงอย่างเดียวอาจเพียงพอต่อการวินิจฉัย ACL Injury แต่ในบางกรณีอาจใช้วิธีอื่น ๆ ในการตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติมเพื่อประเมินความรุนแรงของอาการบาดเจ็บ เช่น การรักษา ACL Injury จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการที่เกิดขึ้นและความต้องการของผู้ป่วยแต่ละคน ในกรณีของนักกีฬาอาจต้องใช้วิธีผ่าตัดรักษาอาการเพื่อให้สามารถกลับไปเล่นกีฬาได้ตามปกติ แต่ในบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้มีอาการร้ายแรงอาจไม่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด หลังได้รับบาดเจ็บ ผู้ป่วยอาจใช้การปฐมพยาบาลในดูแลตนเองเบื้องต้น เพื่อช่วยลดความเจ็บปวดบริเวณหัวเข่าตามหลักการ RICE ได้แก่ หยุดพักและหลีกเลี่ยงการลงน้ำหนักบริเวณการใช้ข้อเข่า (Rest) ใช้น้ำแข็งห่อผ้าสะอาดประคบหลังตื่นนอน ครั้งละ 20 นาที ทุก 2 ชั่วโมง (Ice) ใช้ผ้ายืดพันยึดรอบหัวเข่า (Compression) และยกเข่าให้สูงขึ้นขณะนอนด้วยการใช้หมอนหนุน (Evaluation) วิธีนี้มักใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอายุมากหรือไม่ได้ทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากในชีวิตประจำวัน หากเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าไม่ได้ฉีกขาด หรือข้อเข่ายังมั่นคงและไม่ได้เกิดความเสียหาย แพทย์อาจใช้วิธีการรักษาต่อไปนี้ ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการร้ายแรง เช่น ข้อเข่าอ่อนแรงขณะเดินหรือเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าฉีกขาด หรือเป็นนักกีฬาที่ต้องการกลับไปเล่นกีฬาได้ตามปกติโดยเร็ว แพทย์อาจแนะนำให้ใช้วิธีการผ่าตัดเพื่อรักษา ACL Injury โดยส่วนมาก การผ่าตัดรักษาเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าจะไม่สามารถเย็บส่วนที่ฉีกขาดให้ติดเข้าด้วยกันเหมือนเดิมได้ แต่แพทย์จะนำเส้นเอ็นที่เสียหายออก และใช้เนื้อเยื่อจากเส้นเอ็นส่วนอื่นในร่างกายของผู้ป่วยมาสร้างเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าทดแทนด้วยวิธีการผ่าตัดส่องกล้อง (Arthroscope) โดยอาจใช้เส้นเอ็นจากสะบ้าหัวเข่า (Patellar Tendons) หรือเส้นเอ็นจากด้านหลังของต้นขา (Hamstring Tendons) หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยอาจเข้ารับการทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูข้อเข่าให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ และยังเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นใหม่หลังจากการผ่าตัดอีกด้วย ทั้งนี้ วิธีการผ่าตัดนี้อาจใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือน ผู้ป่วยจึงสามารถกลับไปทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือเล่นกีฬาได้ตามปกติ ผู้ที่เคยมีอาการ ACL Injury อาจมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis) บางรายอาจเกิดภาวะข้ออักเสบ (Arthritis) หลังจากการผ่าตัดสร้างเส้นเอ็นใหม่ โดยเฉพาะผู้ที่เคยได้รับบาดเจ็บรุนแรง มีอาการที่เกี่ยวข้องกับการได้รับบาดเจ็บในข้อเข่าหรือการใช้แรงข้อเข่าในการทำกิจกรรมต่าง ๆ หลังการผ่าตัด ซึ่งเป็นกลุ่มที่อาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างภาวะข้ออักเสบได้มาก การป้องกัน ACL Injury สามารถทำได้ด้วยวิธีต่อไปนี้ความหมาย ACL Injury
อาการ ACL Injury
สาเหตุของ ACL Injury
การวินิจฉัย ACL Injury
การรักษา ACL Injury
หลังได้รับบาดเจ็บ
การรักษาโดยไม่ผ่าตัด
การรักษาด้วยการผ่าตัด
ภาวะแทรกซ้อนของ ACL Injury
การป้องกัน ACL Injury