Illness name: serum sickness
Description: Serum Sickness หรืออาการแพ้แบบเซรุ่มซิกเนส เป็นปฏิกิริยาที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายไวต่อสิ่งกระตุ้นมากผิดปกติ มักเกิดหลังจากการใช้ยาหรือหลังการได้รับเซรุ่มแก้พิษที่ผลิตจากสัตว์ ส่งผลให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น ไข้ ผื่นคัน ปวดตามข้อ บวมบริเวณใบหน้า เป็นต้น อาการดังกล่าวแตกต่างจากอาการแพ้ยาทั่วไปที่มักจะแสดงอาการแพ้อย่างรวดเร็ว โดย Serum Sickness จะใช้เวลาหลายวันก่อนจะแสดงอาการ ทั้งนี้ อาการแพ้ดังกล่าวอาจหายไปเองเมื่อหยุดใช้ยาหรือสามารถรักษาด้วยการใช้ยาอื่น ๆ ได้ตามความเหมาะสมของอาการ โดยทั่วไปอาการแพ้เซรุ่มซิกเนสจะแสดงอาการภายใน 3 วันไปจนถึง 3 สัปดาห์หลังจากการได้รับยา เซรุ่มแก้พิษหรือเซรุ่มต้านพิษในครั้งแรก แต่ผู้ป่วยบางรายอาจแสดงอาการภายใน 1 ชั่วโมงหลังการได้รับยา ซึ่งอาการพื้นฐานของผู้ที่มีอาการ Serum Sickness คือ มีไข้ เกิดผื่นคันบริเวณผิวหนัง ปวดหรือบวมตามข้อ นอกจากนี้อาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น นอกจากนี้ ยังมีบางภาวะที่มีลักษณะอาการคล้าย Serum Sickness แต่เกิดจากกลไกที่แตกต่างกัน เรียกว่า Serum Sickness-like Reaction ซึ่งพบอาการคันรุนแรง ลักษณะผื่นมีสีคล้ำคล้ายรอยช้ำ มักแสดงอาการหลังได้รับยาปฏิชิวนะหรือยากันชักไปแล้ว 1-3 สัปดาห์ ทั้งนี้ แพทย์อาจใช้การตรวจเลือดตรวจหาสารบางชนิดเพื่อวินิจฉัยภาวะดังกล่าว อาการแพ้เซรุ่มซิกเนสเป็นอาการแพ้ที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีปฎิกิริยาไวต่อโปรตีนบางชนิดในยาหรือเซรุ่มต้านพิษมากผิดปกติ ส่งผลให้เกิดอาการดังกล่าวตามมา โดยปฏิกิริยานี้พบได้บ่อยในผู้ป่วยหลังได้รับการรักษาด้วยเซรุ่มต้านพิษชนิดที่ผลิตจากสัตว์เพื่อรักษาโรคต่าง ๆ เช่น พิษงู พิษสุนัขบ้า บาดทะยัก คอตีบ เป็นต้น นอกจากนี้ การใช้ยาชนิดต่าง ๆ อาจเกิดอาการ Serum Sickness ได้ เช่น ยาเพนิซิลลิน ยาเซฟาคลอร์ ยาในกลุ่มยาซัลฟา รวมถึงภายหลังการได้รับ ยา Antithymocyte Globulin เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยที่ปลูกถ่ายอวัยวะ หรือการใช้ Rituximap เพื่อรักษาโรคทางภูมิคุ้มกันบางชนิด แพทย์จะทำการวินิจฉัยเบื้องต้นจากการสอบถามถึงอาการ ช่วงเวลาที่เกิดอาการ รวมไปถึงยาที่ผู้ป่วยกำลังใช้อยู่ในขณะนั้น ในกรณีที่ผู้ป่วยมีผื่นคัน แพทย์อาจทำการตรวจชิ้นเนื้อจากผิวหนังบริเวณที่เกิดผื่นคัน เพื่อช่วยให้สามารถคัดแยกโรคอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องได้ รวมทั้งแพทย์อาจทำการตรวจเลือดหรือปัสสาวะของผู้ป่วยเพื่อหาความผิดปกติเพิ่มเติม ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยทั่วไปอาการ Serum Sickness จะหายไปเองหากผู้ป่วยไม่มีการใช้ยาตัวเดิมซ้ำและหลีกเลี่ยงการใช้ยาหรือเซรุ่มต้านพิษ โดยในช่วงที่มีอาการแพ้ แพทย์อาจให้การรักษาเพื่อบรรเทาอาการที่เกิดขึ้น เช่น ยาต้านฮิสตามีนเพื่อลดอาการคันและผื่น ยาในกลุ่มยาแก้อักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์เพื่อลดอาการปวดตามข้อ อาการอักเสบหรือลดไข้ ยาในกลุ่มยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ในผู้ป่วยที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรง เป็นต้น นอกจากนี้ แพทย์อาจพิจารณารักษาด้วยการเปลี่ยนถ่ายพลาสมา (Plasma Exchange) แต่เป็นกรณีที่พบได้น้อย ผู้ที่มีเคยอาการ Serum Sickness มาก่อน หากกลับมาเป็นซ้ำจะมีอาการที่รุนแรงขึ้น ทั้งนี้ อาการแพ้เซรุ่มซิกเนสอาจก่อให้เกิดอาการแทรกซ้อนต่างๆ เช่น อาการ Serum Sickness อาจไม่สามารถป้องกันได้ตั้งแต่การใช้ยาในครั้งแรก กรณีที่เคยมีอาการแพ้เซรุ่มซิกเนสหรืออาการแพ้ยาอื่น ๆ ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนการรักษาทุกครั้ง หากผู้ป่วยมีบัตรแพ้ยาควรพกติดตัวไว้เสมอ เพื่อให้สามารถรับความช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัยเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินความหมาย อาการแพ้แบบเซรุ่มซิกเนส (Serum Sickness)
อาการ Serum Sickness
สาเหตุของ Serum Sickness
การวินิจฉัย Serum Sickness
การรักษา Serum Sickness
ภาวะแทรกซ้อนของ Serum Sickness
การป้องกัน Serum Sickness