Illness name: แพ้อาหารทะเล
Description: แพ้อาหารทะเล คือ ปฏิกิริยาตอบสนองที่ผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันร่างกายต่อโปรตีนในสัตว์น้ำทะเลและสัตว์น้ำจืดบางชนิด ได้แก่ สัตว์น้ำมีเปลือกทั้งหลาย เช่น กุ้ง ปู หอยนางรม หอยแครง ล็อบสเตอร์ หรือปลาหมึกชนิดต่าง ๆ เช่น หมึกยักษ์ หมึกกล้วย ซึ่งอาการแพ้จะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ตั้งแต่ระดับที่ไม่รุนแรงไปจนถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิต อาการแพ้อาหารทะเล อาการแพ้อาหารทะเลมักจะเกิดขึ้นภายในช่วงเวลาตั้งแต่หลายนาทีหรือเป็นชั่วโมงหลังจากรับประทานอาหารชนิดนั้น ๆ เข้าไป และอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ จากการได้รับสารก่อภูมิแพ้แต่เด็ก จนค่อย ๆ ก่อให้เกิดอาการเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้บางคนอาจเพิ่งพบว่ามีอาการแพ้ในภายหลัง จากที่แต่ก่อนเคยรับประทานได้ปกติ อย่างไรก็ตามอาการแพ้ที่สังเกตได้ มีดังนี้
อาการแพ้ที่เกิดจากอาหารทั้งหลายล้วนมีสาเหตุจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองมากเกินไป เนื่องจากอาหารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ดังกล่าวถูกตรวจจับว่าเป็นอันตราย จึงมีการกระตุ้นให้เกิดการผลิตสารภูมิต้านทาน (Antibodies) เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อสารชนิดนั้นขึ้น และในครั้งต่อไปที่ร่างกายสัมผัสสารก่อภูมิแพ้จากอาหารชนิดนั้น ๆ อีก ระบบภูมิคุ้มกันที่จดจำไว้แล้วว่าสารดังกล่าวเป็นอันตรายจึงปล่อยสารฮีสทามีนและสารเคมีอื่น ๆ ออกมาเพื่อป้องกันและจู่โจม ซึ่งสารเหล่านี้เองที่เป็นสาเหตุของอาการแพ้ที่เกิดขึ้นตามมา แต่ละคนย่อมมีความเสี่ยงต่อการแพ้อาหารทะเลมากน้อยแตกต่างกัน หากบุคคลในครอบครัวเคยมีอาการแพ้ยา อาหาร หรือสารใด ๆ ก็ตาม สมาชิกในครอบครัวนั้นมักมีโอกาสเสี่ยงต่อการแพ้อาหารทะเลมากกว่าปกติ นอกจากนี้ อาการแพ้อาหารทะเลยังสามารถเกิดขึ้นในช่วงวัยใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องแพ้ตั้งแต่เด็ก โดยจะพบได้บ่อยในผู้ใหญ่ พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ส่วนอาการแพ้อาหารทะเลของเด็กนั้นมักพบในเด็กผู้ชาย ทั้งนี้ สัตว์น้ำมีเปลือกนั้นมีหลากหลายชนิด และแต่ละชนิดก็ประกอบด้วยโปรตีนชนิดแตกต่างกันในการทำให้เกิดอาการแพ้ แบ่งประเภทได้ดังนี้
การวินิจฉัยอาการแพ้อาหารทะเล แพทย์จะสอบถามอาการและตรวจร่างกายเบื้องต้นเพื่อให้แน่ใจว่าอาการที่เกิดขึ้นไม่ได้มีสาเหตุมาจากโรคอื่น ๆ และอาจใช้การทดสอบต่อไปนี้
การรักษาอาการแพ้อาหารทะเล หลีกเลี่ยงการรับประทานสัตว์น้ำมีเปลือกที่จะทำให้เกิดอาการแพ้เป็นวิธีป้องกันการแพ้อาหารทะเลที่ดีที่สุด ทว่าแม้จะพยายามป้องกันแล้ว บางครั้งก็อาจเผลอรับประทานหรือสัมผัสอาหารเหล่านี้โดยไม่รู้ตัว สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ไม่รุนแรง แพทย์อาจแนะนำให้รับประทานยาแก้แพ้หรือยาต้านฮีสทามีน (Antihistamines) ช่วยลดอาการแพ้ต่าง ๆ เช่น อาการคันหรือมีผื่น สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้อาหารทะเลชนิดรุนแรงซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ผู้ป่วยจะต้องได้รับการฉีดยาเอพิเนฟริน (Epinephrine) อย่างเร่งด่วนที่สุด และบางรายที่เสี่ยงต่ออาการแพ้รุนแรงนี้แพทย์จะแนะนำให้พกยาเอพิเนฟรินติดตัวไว้ตลอดเวลา รวมถึงสอนวิธีฉีดยาด้วยตนเอง ซึ่งผู้ป่วยอาจต้องฉีดตั้งแต่มีสัญญาณบ่งบอกอาการแพ้เริ่มแรก และรีบไปพบแพทย์ทันทีแม้ว่าฉีดยาด้วยตนเองแล้วก็ตาม ภาวะแทรกซ้อนของการแพ้อาหารทะเล การแพ้อาหารทะเลรุนแรงอาจนำมาซึ่งอาการที่เป็นอันตรายต่อชีวิต เช่น คอบวมจนปิดกั้นทางเดินหายใจ ชีพจรเต้นเร็ว วิงเวียนศีรษะ คล้ายจะเป็นลม ช็อก จนกระทั่งถึงแก่ชีวิต หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที การป้องกันการแพ้อาหารทะเล สำหรับผู้ที่รู้ตัวว่าแพ้อาหารทะเลอยู่แล้ว การหลีกเลี่ยงการรับประทานสัตว์น้ำมีเปลือก รวมถึงผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่มีส่วนผสมจากอาหารเหล่านี้ เป็นวิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการแพ้ได้ดีที่สุด เพราะแม้จะได้รับอาหารที่แพ้ในปริมาณเพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลให้บางรายมีปฏิกิริยาแพ้รุนแรงได้ โดยสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อหลีกเลี่ยงอาการแพ้ ดังนี้
ส่วนความเชื่อที่ว่า ผู้ที่แพ้อาหารทะเลจะเกิดอาการแพ้ต่อไอโอดีนหรือสารทึบรังสีที่ใช้ในห้องปฏิบัติการนั้นไม่เป็นความจริง เพราะไม่มีความเกี่ยวข้องกันแต่ประการใด ผู้ที่แพ้อาหารทะเลสามารถทำกิจกรรมที่ต้องสัมผัสสารไอโอดีนหรือสารทึบรังสีได้ตามปกติโดยไม่ต้องเป็นกังวล ความหมาย แพ้อาหารทะเล
นอกจากนี้ ผู้ที่มีอาการแพ้บางรายอาจมีอาการรุนแรงที่ส่งผลถึงชีวิต มักเกิดขึ้นไม่นานหลังจากการรับประทานอาหารที่แพ้ และถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาโดยเร่งด่วนด้วยการฉีดยาเอพิเนฟริน (Epinephrine) และนำตัวส่งห้องฉุกเฉินทันที ทั้งนี้อาการแพ้รุนแรงจะแสดงให้เห็น ดังนี้
สาเหตุของการแพ้อาหารทะเล
อย่างไรก็ตาม บางคนมีอาการแพ้อาหารทะเลเพียงบางชนิดแต่ยังสามารถรับประทานชนิดอื่น ๆ ได้ ในขณะที่บางคนอาจต้องหลีกเลี่ยงการรับประทานสัตว์น้ำมีเปลือกดังข้างต้นทุกชนิด
ปฏิกิริยาบางอย่างหรืออาการแพ้ที่เกิดขึ้นหลังรับประทานหรือสัมผัสสัตว์น้ำมีเปลือกบางชนิดอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกของการแพ้อาหารทะเล แต่การทดสอบภูมิแพ้เป็นวิธีที่จะช่วยยืนยันถึงสาเหตุของอาการดังกล่าวและคัดแยกโรคหรือภาวะอื่น ๆ ที่อาจมีอาการคล้ายกันออกไป เช่น อาหารเป็นพิษ เป็นต้น
นอกจากนี้ ผู้ที่แพ้อาหารทะเลรุนแรงควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการพกยาฉีดฉุกเฉินเอพิเนฟริน หรือสวมข้อมือที่บอกข้อมูลการแพ้อาหารเพื่อให้ผู้อื่นทราบว่าตนมีอาการดังกล่าวและสามารถช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสม