Illness name: การรักษาโรคริดสีดวงทวา

Description:

ริดสีดวง
  • ความหมาย
  • อาการของริดสีดวง
  • สาเหตุของริดสีดวง
  • การวินิจฉัยริดสีดวง
  • การรักษาริดสีดวง
  • ภาวะแทรกซ้อนของริดสีดวง
  • การป้องกันริดสีดวง

การรักษา ริดสีดวง

Share:

โรคริดสีดวงทวารสามารถรักษาได้หลายวิธี แพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตนเองที่บ้านก่อนในขั้นแรกควบคู่กับการใช้ยา เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด คัน หรือเจ็บบริเวณที่เป็นริดสีดวงทวาร ทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่กับชนิดของโรคริดสีดวงทวารว่าเกิดขึ้นภายในหรือภายนอก

การดูแลตนเองเมื่อเป็นโรคริดสีดวงทวาร 

การปรับพฤติกรรมในการดูแลตัวเองบางเรื่องสามารถช่วยบรรเทาอาการจากโรคริดสีดวงทวารได้ เช่น

  • รับประทานอาหารที่มีกากใยเพิ่มมากขึ้น เน้นการรับประทานผัก ผลไม้ และธัญพืช จะช่วยให้อุจจาระนิ่มขึ้น ถ่ายออกได้ง่าย และบรรเทาอาการปวดให้ลดลงขณะถ่าย 
  • รับประทานยาระบายหรือยากลุ่มที่ช่วยให้อุจจาระนิ่ม อย่างยามิลค์ออฟแมกนีเซีย (Milk of Magnesia) หรือยาระบายแมกนีเซียที่เป็นยาสามัญประจำบ้าน สามารถหาซื้อได้ทั่วไป โดยตัวยาจะช่วยดึงน้ำเข้าสู่ลำไส้ จึงทำให้ผู้ป่วยสามารถขับถ่ายได้ง่ายขึ้น 
  • แช่น้ำอุ่นเป็นประจำ เพื่อลดอาการเจ็บปวดบริเวณทวารหนัก โดยแช่ก้นลงในน้ำอุ่นประมาณ 10-15 นาที วันละ 2-3 ครั้ง 
  • ดูแลความสะอาดของก้นหรือบริเวณที่เป็นริดสีดวงอย่างสม่ำเสมอ พยายามไม่ให้เกิดความเปียกชื้น 
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือน้ำหอมในการทำความสะอาด รวมไปถึงการใช้กระดาษทิชชู่ที่อาจสร้างความระคายเคืองได้ อาจทำความสะอาดผิวบริเวณที่เป็นริดสีดวงทวารด้วยการใช้น้ำอุ่นหรือทิชชู่เปียกแบบไร้แอลกอฮอล์หรือน้ำหอม ซึ่งมีความอ่อนนุ่มมากกว่า
  • หากมีอาการบวมบริเวณริดสีดวงทวาร ผู้ป่วยสามารถประคบเย็นด้วยไอซ์แพ็ค (ice packs/cold compression)

การใช้ยา 

เป็นอีกทางเลือกในการรักษาควบคู่ไปกับการดูแลตนเอง โดยยารับประทานจะเป็นยาในกลุ่มแก้ปวด เช่น อะเซตามีโนเฟน (Acetaminophen) ไอบูโปรเฟน (Ibuprofen) เพื่อบรรเทาอาการคันหรือปวดให้ทุเลาลง นอกจากนี้ยังมียาทาในรูปแบบครีมหรือยาเหน็บทวาร ซึ่งจะมีส่วนผสมของไฮโดรคอร์ติโซน (Hydrocortisone) หรือยาชาที่มีคุณสมบัติในการบรรเทาอาการปวดและคันได้เป็นอย่างดี แต่ควรระวังการใช้ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์นานเกินกว่า 1 สัปดาห์โดยไม่จำเป็น ยกเว้นในกรณีที่แพทย์สั่งเท่านั้น เพราะอาจส่งผลให้ผิวบางลง 

การใช้ยางรัด (Rubber Band Ligation) 

เป็นวิธีรักษาโรคริดสีดวงชนิดภายในที่มีเลือดออกในระดับไม่รุนแรง โดยแพทย์จะใช้ยางเล็ก ๆ รัดรอบฐานของริดสีดวงทวารเพื่อตัดการไหลเวียนของเลือดบริเวณนั้น ทำให้เกิดการฝ่อและแห้งของริดสีดวงทวารภายใน 1 สัปดาห์ แต่อาจมีผลข้างเคียงทำให้เกิดเลือดออกหรือภาวะแทรกซ้อนอื่นได้

การฉีดยา (Sclerotherapy) 

เป็นการฉีดสารละลายเข้าในเส้นเลือดบริเวณที่เป็นริดสีดวงทวาร เพื่อให้หลอดเลือดเกิดการตีบและหดตัวกลับเข้าไป อาจก่อให้เกิดอาการปวดเล็กน้อยขณะฉีดยา

การจี้ริดสีดวงทวารด้วยเลเซอร์ อินฟราเรด หรือเครื่องจี้ไฟฟ้า (Infrared/Laser/Bipolar Coagulation) 

เป็นวิธีเฉพาะที่ใช้รักษาริดสีดวงทวารชนิดภายในที่มีขนาดเล็กและเลือดออกโดยการใช้ความร้อนหรือเลเซอร์จี้ไปที่หัวริดสีดวงทวาร ซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพในการรักษา  

การผ่าตัด 

เป็นวิธีใช้การรักษาโรคริดสีดวงทวารที่อยู่ในระยะรุนแรง โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 วิธี คือ

  • การผ่าตัดเอาริดสีดวงออก (Hemorrhoidectomy) เป็นวิธีการผ่าตัดแบบดั้งเดิมที่แพทย์จะผ่าเพื่อเลาะเอาเนื้อเยื่อบริเวณที่เป็นริดสีดวงทวารออก เป็นวิธีที่ให้ผลการรักษาได้ดีและมีโอกาสในการกลับมาเป็นซ้ำน้อย แต่อาจมีผลข้างเคียง อาจทำให้ปัสสาวะไม่ออกแล้วเกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะได้ 
  • การผ่าตัดโดยใช้เครื่องมือเย็บติด (Stapled Hemorrhoidectomy/Stapled Hemorrhoidopexy) เป็นการผ่าตัดโดยใช้เครื่องมือคล้ายเครื่องยิงลวดในการตัด เย็บ และผูกหัวริดสีดวง ซึ่งจะเป็นการปิดกั้นเลือดที่จะไปเลี้ยงบริเวณที่เป็นริดสีดวงทวารจนให้เกิดการฝ่อและหลุดไป เหมาะสำหรับการรักษาริดสีดวงทวารชนิดภายในเท่านั้น
การวินิจฉัย ริดสีดวง
ภาวะแทรกซ้อนของ ริดสีดวง