Illness name: leishmaniasis ลิชมาเนีย
Description: Leishmaniasis หรือโรคลิชมาเนีย เป็นโรคจากการติดเชื้อปรสิตลิชมาเนีย มักเกิดจากการถูกริ้นฝอยทรายที่เป็นพาหะของเชื้อกัด ส่วนใหญ่จะแพร่ระบาดในบริเวณที่มีสภาพอากาศร้อนชื้นหรือกึ่งร้อนชื้น โดยเฉพาะแถบเอเชีย แอฟริกา หรืออเมริกาใต้ ซึ่งผู้ป่วยแต่ละรายจะแสดงอาการป่วยแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ของเชื้อที่เข้าสู่ร่างกาย เช่น อาจเกิดแผลตรงผิวหนังบริเวณที่ถูกกัด เกิดแผลที่เยื่อบุจมูกหรือปาก ตับและม้ามโต ผิวซีด หรือเป็นไข้เรื้อรัง เป็นต้น ผู้ป่วยโรคลิชมาเนียแต่ละรายจะแสดงอาการป่วยแตกต่างกันไปตามชนิดของโรค ดังนี้ โรคลิชมาเนียที่ผิวหนัง ระยะแรกผู้ป่วยอาจสังเกตเห็นผื่นนูนคล้ายผดขึ้นบริเวณที่ถูกกัด จากนั้นผื่นอาจค่อย ๆ ขยายวงกว้างขึ้นและเกิดเป็นแผลตามมา โดยแผลอาจเกิดขึ้นได้หลายลักษณะ แต่ส่วนใหญ่มักเป็นแผลขอบนูนและไม่เจ็บ ซึ่งรักษาให้หายเป็นปกติได้ค่อนข้างช้า ผู้ป่วยบางรายอาจใช้เวลารักษานานหลายเดือนหรือหลายปี และเมื่อแผลหายแล้วก็อาจทิ้งรอยแผลเป็นที่คล้ายแผลจากไฟไหม้เอาไว้ โรคลิชมาเนียที่อวัยวะภายใน ผู้ป่วยมักเริ่มแสดงอาการผิดปกติหลังถูกปรสิตที่มีเชื้อกัดไปแล้ว 2-6 เดือน โดยอาการบ่งชี้ของโรคนี้ ได้แก่ ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่มีอาการดังข้างต้นหรือสงสัยว่าตนอาจเป็นโรคลิชมาเนียชนิดนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะหากปล่อยไว้อาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ โรคลิชมาเนียที่เยื่อบุ พบได้ไม่บ่อยเท่าโรคลิชมาเนียที่ผิวหนังและที่อวัยวะภายใน โดยในระยะแรกผู้ป่วยจะสังเกตเห็นแผลที่ผิวหนังบริเวณที่ถูกกัด หลังจากนั้นประมาณ 1-5 ปี จะเริ่มมีแผลเกิดขึ้นในจมูก ช่องปาก ริมฝีปาก หรือกล่องเสียง ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการคัดจมูก เลือดกำเดาไหล หายใจลำบาก หรือเสียงแหบร่วมด้วย Leishmaniasis มักเกิดจากการถูกริ้นฝอยทรายที่เป็นพาหะของเชื้อชนิดนี้กัด โดยตัวริ้นอาจได้รับเชื้อมาจากการกัดสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ที่ติดเชื้อ นอกจากนั้น ผู้ป่วยอาจติดเชื้อจากการเปลี่ยนถ่ายเลือดที่มีเชื้อหรือการใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้ที่ติดเชื้อได้เช่นกัน โดยผู้ที่อยู่ในกลุ่มต่อไปนี้ อาจเสี่ยงเป็นโรคลิชมาเนียสูงกว่าคนทั่วไป ในขั้นแรก แพทย์จะสอบถามถึงอาการผิดปกติที่พบ รวมถึงซักประวัติการเดินทางและถิ่นที่อยู่อาศัยของผู้ป่วย หากประเมินแล้วว่ามีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ แพทย์อาจวินิจฉัยด้วยวิธีอื่นเพิ่มเติม เพื่อยืนยันสาเหตุของอาการป่วยและตรวจหาสายพันธุ์ของเชื้อที่พบในร่างกาย โดยอาจขูดแผลเพื่อนำตัวอย่างเซลล์ไปตรวจดูดีเอ็นเอหรือสารพันธุกรรมของเชื้อปรสิตหากสงสัยว่าติดเชื้อโรคลิชมาเนียที่ผิวหนัง หรือหากมีอาการเข้าข่ายโรคลิชมาเลียที่อวัยวะภายใน แพทย์จะตรวจดูลักษณะของตับและม้าม จากนั้นอาจเจาะเอาเนื้อเยื่อไขกระดูกไปส่งตรวจ หรือตรวจเลือดเพื่อดูแอนติบอดี้ที่ผิดปกติด้วย การรักษา Leishmaniasis สามารถทำได้หลายวิธี โดยพิจารณาตามชนิดของโรค ได้แก่ โรคลิชมาเนียแต่ละชนิดอาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนแตกต่างกันไป โดยโรคลิชมาเนียที่ผิวหนังและโรคลิชมาเนียที่อวัยวะภายในเป็นชนิดที่พบได้ค่อนข้างบ่อย และอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนดังต่อไปนี้ โรคลิชมาเนียที่ผิวหนัง โรคลิชมาเนียที่อวัยวะภายใน หากไม่รีบทำการรักษา ผู้ป่วยอาจมีอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงอย่างภาวะน้ำหนักลดลงมากจนผอมแห้ง (Wasting Syndrome) หรืออวัยวะภายในอาจทำงานผิดปกติ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อตัวผู้ป่วยและอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ ส่วนผู้ป่วยโรคลิซมาเนียที่ติดเชื้อเอชไอวี ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที เพราะเชื้อเอชไอวีอาจทำให้อาการของโรคลิชมาเนียรุนแรงขึ้นและทำการรักษาได้ยากยิ่งขึ้น ในปัจจุบันยังไม่มียาหรือวัคซีนชนิดใดที่สามารถป้องกันโรคนี้ได้ ดังนั้น ผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางไปในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการติดโรคจึงควรป้องกันตัวริ้นฝอยทรายกัดตามคำแนะนำต่อไปนี้ ภายนอกอาคาร ภายในอาคารความหมาย ลิชมาเนีย (Leishmaniasis)
อาการของลิชมาเนีย
สาเหตุของลิชมาเนีย
การวินิจฉัยลิชมาเนีย
การรักษาลิชมาเนีย
ภาวะแทรกซ้อนของลิชมาเนีย
การป้องกันลิชมาเนีย