Illness name: มะเร็งต่อมน้ำลาย salivary gland cancer
Description: มะเร็งต่อมน้ำลาย (Salivary Gland Cancer) เป็นโรคมะเร็งชนิดหนึ่งที่ส่งผลให้เกิดก้อนเนื้อมะเร็งบริเวณต่อมน้ำลาย โดยต่อมน้ำลายพบได้บริเวณช่องปากและช่องลำคอ เช่น บริเวณแก้มหน้ากกหู ใต้ขากรรไกร ใต้ลิ้น นอกจากนี้ยังมีต่อมน้ำลายขนาดเล็ก บริเวณเยื่อบุในช่องปาก เพดานปาก กระพุ้งแก้ม เป็นต้น มะเร็งต่อมน้ำลายเป็นโรคที่เกิดจากการที่เซลล์เนื้อเยื่อต่อมน้ำลายเกิดความผิดปกติในการแบ่งตัว หรือเจริญเติบโตมากผิดปกติจนเกิดเป็นก้อนเนื้อ โดยต่อมน้ำลายบริเวณหน้ากกหูจะเป็นบริเวณที่พบมะเร็งต่อมน้ำลายได้บ่อย อย่างไรก็ตาม มะเร็งต่อมน้ำลายถือเป็นโรคที่พบได้น้อยมาก และในบางกรณีก้อนเนื้อที่พบอาจเป็นก้อนเนื้อธรรมดา หรือเป็นสัญญาณของโรคอื่นที่ไม่ได้เป็นผลมาจากโรคมะเร็งได้เช่นกัน โดยส่วนใหญ่ ผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำลายมักจะพบอาการผิดปกติบางอย่าง ดังนี้ ในบางกรณีซึ่งมีโอกาสพบได้น้อย ผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำลายอาจไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ และตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่า ก้อนเนื้อที่พบอาจไม่ใช่ก้อนเนื้อมะเร็ง หรืออาจเป็นสัญญาณของโรคหรือภาวะผิดปกติอื่น ๆ ดังนั้น หากพบอาการผิดปกติ เช่น อาการบวม ปวด บริเวณปาก ขากรรไกร คอ หรือพบอาการในลักษณะข้างต้น โดยเฉพาะหากอาการไม่ดีขึ้นหรือไม่หายไปภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ ในปัจจุบัน ทางการแพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดที่ส่งผลให้เกิดมะเร็งต่อมน้ำลาย แต่มีความเป็นไปได้ว่าอาจเกี่ยวข้องกับปัจจัยเสี่ยงบางอย่าง เช่น นอกจากนี้ ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมน้ำลายยังอาจเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวัน เช่น พฤติกรรมการสูบบุหรี่ หรือการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำ การวินิจฉัยมะเร็งต่อมน้ำลายในเบื้องต้น แพทย์จะสอบถามประวัติและอาการผิดปกติต่าง ๆ ของผู้ป่วยร่วมกับการตรวจร่างกาย โดยเฉพาะการตรวจหาก้อนเนื้อบริเวณใบหน้า ช่องปาก ขากรรไกร และหูของผู้ป่วย จากนั้นแพทย์อาจใช้วิธีตรวจอื่น ๆ เพื่อผลการวินิจฉัยที่แม่นยำ เช่น หากแพทย์วินิจฉัยว่าผู้ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำลาย แพทย์จะตรวจเพิ่มเติมเพื่อดูความรุนแรงรวมถึงการลุกลามของมะเร็ง และนำไปใช้พิจารณาวิธีการรักษาที่เหมาะสมต่อผู้ป่วยแต่ละคน แพทย์จะใช้วิธีการผ่าตัดเป็นหลักในการรักษามะเร็งต่อมน้ำลาย โดยแพทย์อาจผ่าตัดเฉพาะก้อนเนื้อมะเร็งออกไป หรืออาจผ่าตัดก้อนเนื้อมะเร็งออกร่วมกับผ่าตัดต่อมน้ำลายหรืออวัยวะบริเวณใกล้เคียงออกร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและความเสี่ยงในการลุกลามของก้อนมะเร็ง ภายหลังการผ่าตัด แพทย์อาจให้ยาเพื่อป้องกันการติดเชื้อและบรรเทาอาการปวด รวมถึงอาจนัดผู้ป่วยเพื่อผ่าตัดตกแต่งแผลเพิ่มเติม โดยแพทย์อาจผ่าตัดนำผิวหนังหรือเนื้อเยื่อจากบริเวณอื่นของร่างกายมาตกแต่งบริเวณแผล ช่วยให้แผลฟื้นฟูและช่วยให้ผู้ป่วยสามารถใช้ปากและใบหน้าในการพูด เคี้ยวอาหาร กลืน และหายใจได้สะดวกขึ้น นอกจากการผ่าตัด แพทย์อาจใช้วิธีการรักษาอื่น ๆ ร่วมกับการผ่าตัดด้วยเพื่อช่วยกำจัดเซลล์มะเร็ง ทั้งนี้ วิธีที่เลือกใช้จะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมต่อผู้ป่วยแต่ละคน โดยวิธีการรักษาที่แพทย์มักใช้คือการใช้รังสีรักษาหรือการทำเคมีบำบัด (Chemotherapy) หากไม่ได้รับการรักษา ผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำลายอาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนบางอย่างได้ โดยก้อนเนื้อมะเร็งอาจลุกลามหรือมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้อาการของโรคส่งผลกระทบต่อการพูด การกลืน การหายใจ และการใช้ชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ เซลล์มะเร็งอาจแพร่กระจายไปยังอวัยวะหรือบริเวณอื่นของร่างกาย การป้องกันมะเร็งต่อมน้ำลายทำได้ยาก เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ในเบื้องต้นอาจลดความเสี่ยงได้โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่น ไม่สูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และหลากหลายเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนความหมาย มะเร็งต่อมน้ำลาย (Salivary Gland Cancer)
อาการของมะเร็งต่อมน้ำลาย
สาเหตุของมะเร็งต่อมน้ำลาย
การวินิจฉัยมะเร็งต่อมน้ำลาย
การรักษามะเร็งต่อมน้ำลาย
ภาวะแทรกซ้อนของมะเร็งต่อมน้ำลาย
การป้องกันมะเร็งต่อมน้ำลาย