Illness name: endophthalmitis การอักเสบของเนื้อ
Description: Endophthalmitis คืออาการอักเสบของเนื้อเยื่อภายในดวงตาที่มักเกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งสาเหตุของการติดเชื้ออาจเกิดจากการผ่าตัดดวงตา การบาดเจ็บโดยมีสิ่งแปลกปลอมทิ่มหรือเจาะเข้าสู่ดวงตาจนทำให้เกิดบาดแผลขึ้น ในกรณีที่พบได้น้อย การติดเชื้อที่บริเวณอื่นของร่างกายอาจแพร่เข้าสู่กระแสเลือดและทำให้เกิดการติดเชื้อที่ดวงตาได้เช่นกัน Endophthalmitis เป็นการอักเสบที่มักเกิดขึ้นบริเวณวุ้นตา (Vitreous) และน้ำหล่อเลี้ยงลูกตา (Aqueous Humors) ซึ่งมีลักษณะเป็นวุ้นใสอยู่ภายในดวงตา เมื่อเกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา หรือปรสิต อาจทำให้เนื้อเยื่อในดวงตาบริเวณใกล้เคียงอักเสบตามมา แม้ Endophthalmitis จะเป็นโรคที่พบได้ยาก แต่เป็นภาวะฉุกเฉินที่ควรไปพบแพทย์ทันทีเนื่องจากอาจทำให้ผู้ป่วยสูญเสียการมองเห็น อาการของผู้ป่วยจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนมากมักจะเกิดอาการภายใน 1–2 วันหลังการติดเชื้อ หรือภายใน 6 วันหลังได้รับการผ่าตัดหรือได้รับบาดเจ็บที่ดวงตา โดยอาการที่อาจพบได้มีดังนี้ อย่างไรก็ตาม หากพบอาการตามัว เจ็บตาเล็กน้อย และตาไวต่อแสงในช่วง 6 สัปดาห์หลังการฉีดยาหรือผ่าตัดรักษาโรคต้อกระจก มีอุบัติเหตุที่ทำให้สิ่งแปลกปลอมทิ่มแทงเข้าสู่ดวงตา มีอาการติดเชื้อบริเวณอื่นของร่างกายจากการที่เชื้อโรคแพร่เข้าสู่กระแสเลือด อย่างการมองเห็นลดลงเล็กน้อยในช่วงระยะเวลา 2–3 สัปดาห์ หรือมองเห็นเงาดำเป็นจุดหรือเส้นบาง ๆ ลอยอยู่ตามทิศทางของสายตา ควรไปพบแพทย์ทันทีเนื่องจากอาจเสี่ยงต่อการสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้หากได้รับการรักษาไม่ทันเวลา สาเหตุของการติดเชื้อในลูกตา แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ การติดเชื้อภายในดวงตาจากปัจจัยภายนอก และการติดเชื้อบริเวณดวงตาจากการลุกลามและแพร่กระจายของเชื้อจากบริเวณอื่นในร่างกาย การติดเชื้อหลังได้รับการฉีดยาเข้าที่วุ้นตาหรือการผ่าตัดดวงตา เช่น การผ่าตัดรักษาต้อกระจก ต้อหิน และการผ่าตัดเลนส์แก้วตาเทียม รวมถึงการได้รับบาดเจ็บจากสิ่งแปลกปลอมจนเกิดบาดแผลในดวงตา จัดเป็นการติดเชื้ออย่างเฉียบพลันประเภทที่พบได้บ่อยที่สุด หากดวงตาของผู้ป่วยมีบาดแผลจากการตัดหรือเจาะด้วยวัตถุใด ๆ อาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ดวงตาและเกิดการติดเชื้อในลูกตาได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ผู้ป่วยอาจมีโอกาสเสี่ยงสูงขึ้นที่จะเกิดการติดเชื้อหากเกิดมีปัจจัยต่อไปนี้ การติดเชื้อจากภายในร่างกายเป็นสาเหตุของ Endophthalmitis อีกประเภทที่เกิดจากการติดเชื้อในบริเวณอื่นของร่างกายและแพร่กระจายเข้าสู่ดวงตา โดยอาจเกิดจากการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะหรือการติดเชื้อในกระแสเลือด จักษุแพทย์วินิจฉัย Endophthalmitis จากการสอบถามอาการและประวัติการรักษา เพื่อตรวจดูประวัติการได้รับบาดเจ็บหรือการผ่าตัดดวงตา จากนั้นจะตรวจดวงตาทั้งสองข้างและการมองเห็นของผู้ป่วยด้วยเครื่องออพธัลโมสโคป (Ophthalmoscope) หรือในบางกรณีอาจใช้การอัลตราซาวด์บริเวณดวงตาร่วมด้วย เพื่อตรวจดูสิ่งแปลกปลอมที่อาจเข้าไปในดวงตา หากพบการติดเชื้อ แพทย์อาจใช้วิธีเก็บน้ำวุ้นตา (Vitreous Tap) โดยใช้เข็มขนาดเล็กเจาะเข้าไปในตา และดูดเก็บน้ำวุ้นตาเพื่อนำมาทดสอบหาเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อโรคอื่น ๆ ที่อยู่ในดวงตา ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุของการติดเชื้อ วิธีการรักษา Endophthalmitis จะขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการที่กระทบต่อการมองเห็นของผู้ป่วย โดยจักษุแพทย์อาจใช้วิธีการรักษาดังต่อไปนี้ หากสาเหตุเกิดจากการติดเชื้อ แพทย์อาจฉีดยาปฏิชีวนะหรือยาต้านเชื้อราให้แก่ผู้ป่วยเพื่อรักษาอาการ โดยแบ่งออกเป็นการฉีดเข้าสู่ดวงตาที่ติดเชื้อโดยตรง (Intravitreal Antibiotics) และการฉีดเข้าสู่หลอดเลือดดำ (Intravenous Antibiotics) สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการติดเชื้อรุนแรง โดยทั่วไปแพทย์มักไม่ให้ยาปฏิชีวนะในการรักษา มีเพียงบางกรณีที่อาจให้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เพื่อลดอาการบวมหรืออักเสบจากการติดเชื้อ รวมถึงอาจให้ยาต้านเชื้อราชนิดรับประทานหากผู้ป่วยติดเชื้อราในดวงตา และยาปฏิชีวนะชนิดทาภายนอกสำหรับทาเฉพาะบริเวณที่มีบาดแผลติดเชื้อ แพทย์อาจใช้วิธีการผ่าตัดวุ้นตา (Vitrectomy) เพื่อนำน้ำวุ้นตาส่วนที่ติดเชื้อออก และทดแทนด้วยสารละลายน้ำเกลือที่ผ่านการฆ่าเชื้อ (Saline) หรือสารน้ำอื่น ๆ ตามความเหมาะสม ซึ่งจะใช้กรณีที่ผู้ป่วยการมองเห็นลดลงอย่างรุนแรงในระยะที่ใกล้จะสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร ทั้งนี้ แพทย์จะสังเกตอาการและผลการรักษาเป็นระยะ โดยอาจนัดหมายให้ผู้ป่วยมาตรวจตาเพื่อประเมินผลการรักษา โดยทั่วไป อาการจะเริ่มดีขึ้นหลังได้รับการรักษา 2–3 วัน ซึ่งอาการปวดหรือบวมบริเวณดวงตาอาจดีขึ้นก่อน และความสามารถในการมองเห็นจะค่อย ๆ ดีขึ้นในภายหลัง ภาวะแทรกซ้อนของ Endophthalmitis อาจเกิดขึ้นในกรณีที่ผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมหรือปล่อยให้มีอาการโดยไม่เข้ารับการรักษา ซึ่งอาจทำให้การมองเห็นของผู้ป่วยลดลงหรืออาจสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร นอกจากนี้ ผู้ป่วยบางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการรักษา แต่หากปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลดวงตาของแพทย์ อย่างวิธีการหยอดตา วิธีใช้ขี้ผึ้งป้ายตา หรือวิธีใช้ผ้าปิดตาอย่างถูกต้อง และไปพบแพทย์ตามการนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหลังการผ่าตัดได้ การป้องกัน Endophthalmitis ทำได้โดยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อจากปัจจัยภายนอก และการติดเชื้อหลังการผ่าตัด ดังนี้ความหมาย Endophthalmitis (การอักเสบของเนื้อเยื่อในดวงตา)
อาการของ Endophthalmitis
สาเหตุของ Endophthalmitis
การติดเชื้อจากปัจจัยภายนอก (Exogenous Endophthalmitis)
การติดเชื้อจากภายในร่างกาย (Endogenous Endophthalmitis)
การวินิจฉัย Endophthalmitis
การรักษา Endophthalmitis
การใช้ยา
การผ่าตัด
ภาวะแทรกซ้อนของ Endophthalmitis
การป้องกัน Endophthalmitis