Illness name: เซ
Description: เซ (Ataxia) หรือภาวะกล้ามเนื้อเสียสหการ เป็นภาวะของกล้ามเนื้อที่ทำงานไม่ประสานงานกัน ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ตามต้องการ คนส่วนใหญ่มักนึกถึงอาการเซในขณะลุก เดิน หรือนั่งเพียงอย่างเดียว แต่อาการนี้ยังรวมไปถึงกลุ่มโรคที่เกิดขึ้นกับระบบประสาท ซึ่งอาจส่งผลให้การทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันยากลำบากขึ้น เช่น เขียนหรืออ่านหนังสือไม่ได้ พูดไม่ชัด กลืนอาหารไม่ได้ โดยทั่วไปไม่ได้เป็นอาการเฉพาะเจาะจงของโรคใดโรคหนึ่ง อาจเป็นได้ทั้งภาวะชั่วคราวหรือถาวร อาการเซมีอยู่หลายประเภท หากแบ่งตามลักษณะกว้าง ๆ แยกออกเป็น อาการเซ อาการเซอาจเกิดขึ้นได้ทันทีทันใดหรือค่อย ๆ เกิดขึ้น และอาการแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าสมองหรือร่างกายส่วนใดได้รับความเสียหาย โดยสัญญาณบ่งบอกความผิดปกติของระบบทางเส้นประสาทที่พบบ่อยสังเกตได้จาก ผู้ที่มีอาการในลักษณะข้างต้นหรือมีโรคประจำตัวที่คาดว่าอาจเป็นสาเหตุของอาการเซ ควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจดูอาการและค้นหาสาเหตุ แต่ควรรีบพบแพทย์ทันทีหากมีปัญหาในการทรงตัว ไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อมือ แขน และขาได้ ไม่สามารถเดินได้ตามปกติ พูดไม่ชัด หรือกลืนอาหารไม่ได้ สาเหตุของอาการเซ สมองส่วนที่เรียกว่า เซรีเบลลัม (Cerebellum) หรือสมองน้อย ประกอบด้วย 2 ซีก ซีกซ้ายควบคุมกล้ามเนื้อด้านซ้ายและซีกขวาควบคุมกล้ามเนื้อด้านขวาของร่างกาย โดยสมองน้อยทำหน้าที่เป็นตัวกลางรวบรวมข้อมูลจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเชื่อมโยงไปยังสมองใหญ่และส่งสัญญาณจากสมองใหญ่ไปยังกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เมื่อมีความผิดปกติของสมองน้อย เช่น ได้รับความเสียหาย ฝ่อลง หรือสูญเสียเซลล์ประสาท จึงส่งผลต่อการควบคุมกล้ามเนื้อในการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายหรืออาการเซตามมา รวมถึงโรคที่ทำลายกระดูกไขสันหลังซึ่งติดกับเซรีเบลลัมหรือระบบประสาทส่วนปลายที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวและการขยับของข้อต่อก็อาจเป็นสาเหตุของอาการเซได้เช่นกัน เพราะเป็นส่วนที่เชื่อมโยงกับเซรีเบลลัม อีกทั้งอาการที่เกิดขึ้นจะแตกต่างกันออกไปตามตำแหน่งของระบบประสาทในร่างกายที่ได้รับความเสียหาย ตัวอย่างโรคที่มักพบว่าเป็นสาเหตุของอาการเซ เช่น สาเหตุอื่น ๆ ที่พบได้น้อย เช่น การวินิจฉัยอาการเซ แพทย์วินิจฉัยอาการเซได้จากการสอบถามอาการผิดปกติ ประวัติทางการแพทย์ของตัวผู้ป่วยเองและบุคคลในครอบครัว เช่น เคยสัมผัสกับสารเคมีหรือสารพิษใด ๆ คนใกล้ชิดในครอบครัวเคยมีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาทหรือไม่ จากนั้นจึงตรวจร่างกายทั่วไป โดยดูการทรงตัว การใช้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ทดสอบการมองเห็นและการได้ยิน การโต้ตอบของผู้ป่วย และความสามารถในการจดจำ จากนั้นจึงอาจด้านอื่น ๆ เพิ่มตามความเสี่ยงในแต่ละบุคคล เช่น การรักษาอาการเซ แนวทางในการรักษาจะขึ้นอยู่กับประเภทและสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการเซเป็นหลัก จึงไม่มีวิธีเฉพาะเจาะจง การรักษามักมุ่งเน้นให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นปกติหรือใกล้เคียงสภาพปกติมากที่สุด ซึ่งแบ่งออกได้หลายวิธี การรักษาตามสาเหตุ หากพบว่าอาการเซเกิดจากโรคหรือความผิดปกติของร่างกาย แพทย์จะรักษาต้นตอที่ทำให้เกิดอาการ แต่ถ้าเกิดจากสภาพแวดล้อมหรือปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ แพทย์จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านั้นให้มากที่สุด และแนะนำวิธีรักษา เช่น รับประทานวิตามินและแร่ธาตุเสริมในรายที่มีอาการขาดวิตามิน ควรเลี่ยงการสัมผัสหรือหยิบจับสารพิษที่เป็นต้นเหตุ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินปริมาณควรงดการดื่มและถอนพิษจากแอลกอฮอล์ ซึ่งบางรายแพทย์อาจให้รับประทานไทอะมีน (Thiamine) หรือวิตามินบี 1 เพิ่มเติม รวมถึงการรักษาโดยการผ่าตัด ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งในการรักษาโรคที่เป็นสาเหตุ เช่น เนื้องอกสมอง ฝีในสมอง หรือโพรงน้ำในสมองโต ซึ่งผลการรักษาจะแตกต่างกันในแต่ละราย การใช้อุปกรณ์ช่วยในการปรับตัว (Adaptive Equipment) เนื่องจากโรคบางโรครักษาไม่หายขาด เช่น โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งหรือภาวะสมองพิการ จึงต้องใช้อุปกรณ์ช่วยในการปรับตัว เพื่อสามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้เป็นปกติ ในรายที่เดินไม่ได้จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน หรืออุปกรณ์ช่วยรับประทานอาหารให้สะดวกมากขึ้น รวมไปถึงอุปกรณ์ช่วยในการสื่อสาร การบำบัดรักษา มีอยู่หลายรูปแบบแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ในการรักษาผู้ป่วยแต่ละคน เช่น กายภาพบำบัด จะช่วยให้การเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อได้ง่ายขึ้น กิจกรรมบำบัด (Occupational Therapy) จะช่วยให้หยิบจับสิ่งของและทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันอย่างการรับประทานอาหารด้วยตนเอง หรือการแก้ไขการพูด (Speech Therapy) จะช่วยฟื้นฟูผู้ป่วยที่มีความผิดปกติทางการพูดและมีปัญหาในการกลืน การรักษาด้วยยา อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยที่มีอาการเซในบางประเภทเท่านั้น และยังต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมมากขึ้น ยกเว้นในรายที่มีอาการจากการขาดวิตามินหรือแร่ธาตุที่สามารถรักษาด้วยการรับประทานวิตามินหรือสารอาหารเสริม อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องและพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากที่สุด ภาวะแทรกซ้อนของอาการเซ อาการเซโดยทั่วไปส่งผลร้ายต่อคุณภาพชีวิตเนื่องจากจากภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น เวียนศีรษะ กล้ามเนื้อหดเกร็ง ร่างกายมีสภาพแข็งเกร็ง เกิดอาการสั่น ปวด เหนื่อยง่าย มีปัญหาในการหายใจ ความดันโลหิตลงต่ำลงขณะนั่งหรือยืน การทำงานของกระเพาะปัสสาวะและลำไส้ผิดปกติ หย่อนสมรรถภาพทางเพศ สมองเสื่อม อาการช็อกและอันตรายถึงชีวิต ซึ่งอาจจะแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทและยังต้องอาศัยอุปกรณ์ช่วยในระหว่างที่พักรักษาตัว นอกจากนี้ ยังเสี่ยงต่อการลื่นล้ม ทำให้เกิดบาดแผล บาดเจ็บตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย กระดูกหัก จนอาจต้องนอนรักษาตัวบนเตียงเป็นเวลานาน ซึ่งผู้ป่วยมักเคลื่อนไหวร่างกายได้เพียงเล็กน้อย สุขภาพร่างกายทรุดโทรมลง หากมีอาการรุนแรงอย่างอาการติดเชื้อ แผลกดทับ เลือดจับตัวเป็นลิ่มเลือด อาจทำให้เสียชีวิตได้ การป้องกันอาการเซ อาการนี้เกิดได้หลายสาเหตุและมีโรคที่เกี่ยวข้องมากมาย การป้องกันจึงทำได้ไม่เต็มที่ แต่อาจลดความเสี่ยงบางประการที่เกิดจากจากปัจจัยภายนอก เช่น หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีหรือสารพิษที่เป็นอันตราย ระมัดระวังไม่ให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงบริเวณศีรษะ รับประทานอาหารถูกหลักโภชนาการ เพื่อป้องกันการขาดวิตามินและแร่ธาตุ ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ และเมื่อพบอาการผิดปกติหรือเป็นโรคประจำตัวใด ๆ ควรรักษาให้หายขาด ส่วนอาการเซที่เป็นผลมาจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมนั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือป้องกันได้ ผู้ที่มีประวัติบุคคลในครอบครัวมีอาการเดินเซหรือกล้ามเนื้อทำงานผิดปกติควรเข้ารับการตรวจคัดกรองความผิดปกติของพันธุกรรมและวางแผนครอบครัวอย่างเหมาะสมความหมาย เซ