Illness name: ปอดติดเชื้อ
Description: ปอดติดเชื้อ (Pneumonia) เป็นภาวะติดเชื้อที่เนื้อปอดและถุงลมปอด ทำให้เกิดอาการปอดบวม ผู้ป่วยมักมีอาการไอมีเสมหะ หายใจมีเสียง หายใจหอบเหนื่อย และเจ็บหน้าอก โดยอาการปอดติดเชื้อจะส่งผลให้เกิดสองโรคที่พบได้บ่อย คือ โรคปอดบวมที่มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียและโรคปอดบวมที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส อาการปอดติดเชื้อมักไม่รุนแรงและหายได้เอง แต่บางรายอาจมีอาการรุนแรงจนเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยเฉพาะอาการปอดติดเชื้อที่ทำให้เกิดโรคปอดบวม เพราะส่วนมากจะมีอาการร้ายแรงและจำเป็นต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ ผู้ป่วยที่มีอาการปอดติดเชื้อมักพบอาการดังนี้ อาการปอดติดเชื้อมักเกิดขึ้นหลังจากผู้ป่วยเป็นโรคหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ส่วนมากอาการจะขึ้นได้เองภายใน 7-10 วันโดยไม่ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล แต่อาจมีอาการไอมีเสมหะอยู่ในช่วง 3 สัปดาห์ ในบางกรณีอาการปอดติดเชื้ออาจไม่หายได้เอง ผู้ป่วยควรเข้ารับการรักษาจากแพทย์หากมีอาการรุนแรงขึ้น เช่น ไอเป็นเลือดหรือมีเสมหะปนเลือด ปวดศีรษะหรือมีไข้และอาการแย่ลง มีอาการไอต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า 3 สัปดาห์ เจ็บหน้าอก หายใจหอบถี่หรือหายใจลำบาก เวียนศีรษะหรือมีอาการสับสน เป็นต้น ปอดติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดได้จากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส บางรายอาจเกิดจากเชื้ออื่น ๆ อย่างเชื้อราหรือเชื้อปรสิต โดยสาเหตุของการติดเชื้อจะแตกต่างกันไปตามชนิดของเชื้อ ผู้ป่วยสามารถได้รับเชื้อผ่านการสูดเอาละอองฝอยที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจจนปอดติดเชื้อ โดยอาจได้รับจากคนรอบข้างที่มีเชื้อได้ไอหรือจามออกมา รวมถึงการสัมผัสสิ่งของหรือพื้นผิวที่มีเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียปนเปื้อนแล้วมาสัมผัสบริเวณใบหน้าหรือปากของตนเอง ทำให้เกิดการติดเชื้อได้เช่นกัน นอกจากนี้ บุคคลบางกลุ่มหรือมีปัจจัยเสี่ยงบางอย่างอาจเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อที่ปอดได้มากกว่าคนทั่วไป เช่น แพทย์จะวินิจฉัยอาการปอดติดเชื้อจากการสอบถามอาการ ซักประวัติของผู้ป่วยและสมาชิกในครอบครัว อย่างประวัติสุขภาพหรือพฤติกรรมการสูบบุหรี่ จากนั้นจะตรวจร่างกายเบื้องต้นด้วยการวัดอุณหภูมิร่างกาย นับอัตราการหายใจ ตรวจดูการอิ่มตัวของออกซิเจนในร่างกายด้วยเครื่องวัดบริเวณปลายนิ้ว รวมถึงฟังเสียงการทำงานของปอดและหัวใจ หากผู้ป่วยมีอาการหอบหืด แพทย์อาจใช้วิธีตรวจวัดสมรรถภาพปอด (Peak Flow Measurement) ร่วมด้วย หากตรวจพบอาการติดเชื้อที่บริเวณหลอดลมปอดและมีอาการไม่รุนแรง ผู้ป่วยมักไม่จำเป็นต้องทดสอบเพื่อวินิจฉัยเป็นพิเศษ แต่หากมีอาการรุนแรงขึ้น แพทย์อาจเอกซเรย์ปอดเพื่อวินิจฉัยอาการและความรุนแรงของการติดเชื้อ รวมทั้งจะตรวจเลือดและเสมหะเพื่อตรวจหาเชื้อต้นเหตุที่ทำให้เกิดอาการปอดติดเชื้ออย่างรุนแรง ซึ่งจะช่วยให้แพทย์สามารถตัดสินใจในการจ่ายยาปฏิชีวนะแก่ผู้ป่วยได้เหมาะสม เนื่องจากยาบางชนิดอาจใช้รักษาอาการติดเชื้อไม่ได้ผล แพทย์จะรักษาปอดติดเชื้อตามสาเหตุและความรุนแรงของโรค ดังนี้ นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงสามารถดูแลตนเองที่บ้านตามคำแนะนำต่อไปนี้ ทั้งนี้ ควรระมัดระวังในการแพร่เชื้อให้แก่ผู้อื่นหากมีอาการปอดติดเชื้อ โดยผู้ป่วยควรล้างมือให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ หากมีอาการไอหรือจามควรปิดปากและทิ้งกระดาษชำระที่ใช้แล้วอย่างเหมาะสมทันที เพื่อลดโอกาสในการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น หากมีอาการหลอดลมอักเสบแล้วไม่ได้รับการรักษาหรือรักษาอย่างไม่ถูกต้อง การติดเชื้อจากบริเวณหลอดลมอาจแพร่ไปสู่ปอดได้ ทำให้เกิดภาวะปอดบวม บางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นเพิ่มเติมได้ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่กระแสเลือด การสะสมของของเหลวในปอด การเกิดฝีในปอด ภาวะพร่องออกซิเจน และภาวะระบบหายใจล้มเหลว เป็นต้น วิธีลดความเสี่ยงในการเกิดอาการปอดติดเชื้อสามารถทำได้ด้วยวิธีต่อไปนี้ความหมาย ปอดติดเชื้อ
อาการปอดติดเชื้อ
สาเหตุของปอดติดเชื้อ
การวินิจฉัยปอดติดเชื้อ
การรักษาปอดติดเชื้อ
ภาวะแทรกซ้อนของปอดติดเชื้อ
การป้องกันปอดติดเชื้อ